ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพ
นักเรียนสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล
ผู้เขียน นางจุมรี เฮ้าปาน
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1)เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน บริบทและสภาพแวดล้อมในการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 3).เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน สู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และ4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดโดยมีกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 58 คนได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล ปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยวิธีการศึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structured Interviews) และการยืนยันรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยใช้เทคนิคการสนทนากลุ่ม (Focus Group) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน บริบทและสภาพแวดล้อมในการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า การพัฒนาหลักสูตรในสถานศึกษา มีการศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและสาระการเรียนรู้สภาพปัจจุบัน มีการวางแผน กำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตรสถานศึกษาและมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หลักสูตรสถานศึกษา
2. ผลการศึกษาการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมงคล เทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่ามีส่วนร่วมในการศึกษาความต้องการของชุมชน เพื่อรับทราบปัญหาต่างๆ ของชุมชนในพื้นที่โรงเรียนอยู่ในระดับมาก การวางแผนการทำงานด้านวิชาการอย่างเป็นระบบและชัดเจน อยู่ในระดับมากที่สุด มีส่วนร่วมในการจัดหา จัดซื้อ คัดเลือกเอกสารประกอบหลักสูตรอยู่ในระดับมาก มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดทำแผนการสอน อยู่ในระดับมาก ซึ่งจะทำให้ได้คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาตรงตามที่กำหนดไว้ อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการศึกษาการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน สู่ความเป็นเลิศ พบว่าโรงเรียนใช้หลักการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้เสียเข้ามามีบทบาทกำกับ ติดตามการบริหารจัดการศึกษา มีการร่วมการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน มีการบูรณาการ การเรียนการสอนโดยใช้หลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรชุมชน ร่วมระดมทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาการศึกษาในสถานศึกษา เช่น จัดหาผ้าป่าศิษย์ จัดหาทุนการศึกษา จัดหาสื่ออุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา ทำให้การบริหารจัดงานงานวิชาการประสบผลสำเร็จอยู่ในระดับที่ดี คือ การมามีส่วนร่วมส่งเสริมสนับสนุนการจัดระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและการรับประเมินจากภายนอก การจัดหาทรัพยากรและการระดมทุนเพื่อการจัดการเรียนการสอน การส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรในสถานศึกษามีความรู้ ความเข้าใจในการทำวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน
4. ผลการศึกษาการประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ พบว่าการประเมินความเหมาะสมของคู่มือการดำเนินการตามรูปแบบการบริหารจัดการงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ ลักษณะของรูปเล่มกะทัดรัดเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดตามมาด้วยคู่มืออ่านแล้วเข้าใจง่ายและสะดวกการนำไปใช้จริง อยู่ในระดับมากที่สุด และสุดท้ายคือเนื้อหาด้านการบริหารจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบมีส่วนร่วมมีความครอบคลุมอยู่ในระดับมากที่สุด