ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คาถาม เพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ก

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้าง

ความรู้ด้วยตนร่วมกับเทคนิคการใช้คาถาม เพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผู้วิจัย : นางสาวสายสมร สิมศรี ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านสิริขุนหาญ ตาบลสิ อาเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่พิมพ์ : 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและข้อมูลพื้นฐานในการจัดการ เรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อหาประสิทธิภาพ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม เพื่อ ส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 75/75 3) เพื่อทดลองใช้การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนว ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถาม เพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตาม แนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คาถามเพื่อส่งเสริมทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียน 5) เพื่อศึกษาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์หลังการเรียนรู้ด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คาถามเพื่อ ส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 6) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการ เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้ คาถามเพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนบ้าน สิริขุนหาญ อาเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2562 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ 2) แบบทดสอบวัดทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คาถามที่ส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t – test แบบ dependent และการวิเคราะห์

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้ข้อ สรุปว่า นักเรียนลืมสาระสาคัญหรือความคิดรวบยอดของเนื้อหาสาระที่เคยเรียนมา สาเหตุมาจาก ความรู้ของนักเรียนมาจากการถ่ายทอดจากครู ไม่ได้มาจากการสร้างความรู้ด้วยตนเอง จึงไม่เกิดความคง คนในการเรียนรู้ ลืมง่าย ไม่สามารถนาความรู้จากการเรียนไปใช้ในการดาเนินชีวิตได้เท่าที่ควร เกิด จากการจัดเรียนการสอนไม่มีการเชื่อมโยงความรู้ไปสู่สิ่งรอบตัว เมื่อนักเรียนพบเจอสถานการณ์ที่เป็น ปัญหาในชีวิตจริงจึงไม่อาจนำความรู้มาใช้ได้ เนื่องมาจากครูจัดการเรียนการสอนโดยยึดตำราเป็นหลัก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่ได้ส่งเสริมด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรียนจึง มีความรู้อยู่ในระดับความรู้ ความเข้าใจ ซึ่งความรู้ในระดับนี้ไม่สามารถสร้างบุคคลที่มีคุณภาพเพื่อ ออกไปเผชิญสถานการณ์โลกแห่งศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงได้ได้ ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ จึงมีความคิดเห็นตรงกันว่าสิ่งสาคัญที่ต้องเร่งแก้ไขและพัฒนา คือ ปรับกระบวนทัศน์ในการจัดการเรียนรู้ เปลี่ยนจากการถ่ายทอดความรู้เป็นการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้างความรู้ด้วยตนเอง โดยใช้ เทคนิคการใช้คาถามช่วยให้นักเรียนสามารถสรุปความรู้ และส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิค การใช้คาถามเพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ หลักการและ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนรู้และการนารูปแบบไปใช้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับเทคนิคการใช้คาถามเพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 77.86 /78.65

4. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนว ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คาถามเพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

5. ผลการประเมินทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถามเพื่อ ส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนเฉลี่ยด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน

เท่ากับ 15.69 คิดเป็นร้อยละ 78.46 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนสอบของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.01

6. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนจากรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ร่วมกับเทคนิคการใช้คำถามเพื่อส่งเสริมทักษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.54 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.51 อยู่ในระดับ มาก

โพสต์โดย เป็นต่อ : [30 ส.ค. 2563 เวลา 19:42 น.]
อ่าน [4732] ไอพี : 171.5.133.115
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 82,539 ครั้ง
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล

เปิดอ่าน 55,600 ครั้ง
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้

เปิดอ่าน 12,590 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 26,228 ครั้ง
ความต่างของ วิวัฒนาการ vs พัฒนาการ ว่ามันต่างกันยังไง !!
ความต่างของ วิวัฒนาการ vs พัฒนาการ ว่ามันต่างกันยังไง !!

เปิดอ่าน 16,054 ครั้ง
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี
เด็กๆ นี่มีเสน่ห์ คนนี้ชอบพูด NO น่ารักดี

เปิดอ่าน 12,013 ครั้ง
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 9,436 ครั้ง
ทำไมคนเราถึงฝัน
ทำไมคนเราถึงฝัน

เปิดอ่าน 13,480 ครั้ง
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม

เปิดอ่าน 15,402 ครั้ง
Web 2.0
Web 2.0

เปิดอ่าน 19,800 ครั้ง
ชมเลย แอนิเมชั่นการบริหารสมองเป็น 2 เท่า ด้วย Brain Activation
ชมเลย แอนิเมชั่นการบริหารสมองเป็น 2 เท่า ด้วย Brain Activation

เปิดอ่าน 9,029 ครั้ง
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน

เปิดอ่าน 806 ครั้ง
เดินทางกับ Cathay Pacific พร้อมทริคจองตั๋วราคาในประหยัด
เดินทางกับ Cathay Pacific พร้อมทริคจองตั๋วราคาในประหยัด

เปิดอ่าน 12,216 ครั้ง
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์

เปิดอ่าน 34,731 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง

เปิดอ่าน 9,468 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก

เปิดอ่าน 10,751 ครั้ง
น้ำประปาแปลงร่าง กลายเป็นน้ำแข็งคนกลับชอบ!?
น้ำประปาแปลงร่าง กลายเป็นน้ำแข็งคนกลับชอบ!?
เปิดอ่าน 8,960 ครั้ง
Google ใหญ่ขึ้น!!! คุณไม่ได้ตาฝาด...
Google ใหญ่ขึ้น!!! คุณไม่ได้ตาฝาด...
เปิดอ่าน 46,379 ครั้ง
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
เปิดอ่าน 20,971 ครั้ง
พระสงฆ์กับความเป็นครู
พระสงฆ์กับความเป็นครู
เปิดอ่าน 292,906 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ