ชื่อผลงาน การพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล
๓.๑ ความเป็นมา และความสำคัญ
๑) ความเป็นมาและสภาพปัญหา
การศึกษาเป็นกระบวนการของการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เจริญงอกงาม เป็นการพัฒนาสังคม พัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน การพัฒนาคนไทยยุคใหม่ จึงต้องสร้างและเตรียมเยาวชนของชาติเข้าสู่โลกยุคศตวรรษที่ 21 ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2561) คือ พัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่เพื่อมุ่งให้เป็นคนที่มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ได้ด้วยตนเองแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สามารถสื่อสาร คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา คิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจิตสาธารณะ มีระเบียบวินัย คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ทำงานเป็นกลุ่มได้อย่างเป็นกัลยาณมิตร มีศีลธรรม จริยธรรม ค่านิยม จิตสำนึกและความภูมิใจความเป็นไทย (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. 2552) และตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ก็ได้ให้ความสำคัญของการคิดโดยกำหนดไว้ในจุดมุ่งหมายว่า เมื่อจบการศึกษาแล้วผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการสื่อสาร การคิดและการแก้ปัญหา และกำหนดสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนข้อที่ 2 ระบุถึงความสามารถในการคิดในเรื่อง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อนำไปสู่การสร้างความรู้ สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551)
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ต้องพัฒนาคนให้มีความสามารถหลากหลาย (Personal competence) สามารถทำงานได้หลายอย่างโดยอาศัยเครื่องจักรลดกำลังแรงกาย และอาศัยคอมพิวเตอร์ลดกำลังสมองในการคิด รวมทั้งความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข เพื่อเสริมสร้างการทำงานเป็นทีมให้เข้มแข็ง นั่นก็คือทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (People Skills) ของผู้เรียน และความสามารถในการบริหารจัดการ การมีคุณธรรมภายในจิตใจ เช่น ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตว์ การตรงต่อเวลา เป็นต้นความคาดหวังอันจะเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไปสู่เป้าหมายดังกล่าวก็คือ การศึกษา ซึ่งเป็นกลไกสำคัญและจำเป็นที่สุด รากฐานของการศึกษาที่วางอยู่บนฐานที่ถูกต้องจึงเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันสังคมให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จคืออุดมคติที่วางไว้ เมื่อพิจารณาระบบการศึกษาของสังคมไทยปัจจุบัน จะพบว่ายังอยู่ห่างไกลจากจุดประสงค์ของการศึกษาดังกล่าว อันสืบเนื่องมาจากความบกพร่องหรือความล้มเหลวทางการศึกษาหลายประการด้วยกันที่ปลูกฝังให้แก่ผู้ศึกษา เช่น เป้าหมายของการศึกษาคือความเป็นเลิศทางวิชาการ (เน้นความรู้แต่ขาดจริยธรรม) ความเชื่อ และค่านิยม โดยเฉพาะเรื่องค่านิยมทางการศึกษาในสังคมไทยนั้น ถือว่ามีความบกพร่องประสบความล้มเหลว ถึงจุดที่จะต้องแก้ไข(พระสมุห์สุรเชษฐ์ หนูเอี่ยม)
จากผลการติดตามและประเมินด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ยังไม่เป็นที่พอใจ พิจารณาจากแบบบันทึกผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ปีการศึกษา 2562 ของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้น ต่ำกว่าร้อยละ 50 เกือบทุกวิชา สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล พบปัญหาและอุปสรรคทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านทักษะกระบวนการคิด และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่อยู่ในระดับที่ต้องได้รับการปรับปรุงและพัฒนา อีกทั้งการจัดการเรียนรู้โดยการมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเพื่อทำรายงานนั้น ส่วนใหญ่นักเรียนจะใช้วิธีการคัดลอกเนื้อหามาเรียงหรือต่อกัน และขาดการสังเคราะห์เนื้อหาให้เป็นข้อสรุปหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ รวมถึงสิ่งที่นำเสนอนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่นักเรียนมีความเข้าใจอย่างแท้จริง สังเกตได้จากการซักถามนักเรียนเกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติ พบว่าหลายๆ ครั้งนักเรียนไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ศึกษาค้นคว้ามาได้ จากการซักถามเพิ่มเติมพบว่าสาเหตุนั้นเกิดจากรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ใช้อยู่ยังไม่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงยังไม่ส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการเรียนรู้และการคิดอย่างสร้างสรรค์เท่าที่ควร ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านักเรียนยังขาดความสามารถในการสร้างองค์ความรู้และการคิดสร้างสรรค์
๒) แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา
แนวทางหนึ่งที่โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล โดยความร่วมมือของคุรุสภา ได้ร่วมดำเนินการผ่านโครงการการพัฒนางานวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นฐาน (Professional Learning Community: PLC) จนประสบความสำเร็จ คือ การจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสืบสอบด้วยการทำงานกลุ่ม หรือเป็นทีม หรือเรียกว่าการเรียนรู้แบบร่วมพลัง ด้วยเหตุผลเราะแนวการสอนดังกล่าวเน้นให้นักเรียนสืบสอบ หรือแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ ซึ่งต้องอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์เป็นหลัก และการเรียนรู้แบบร่วมพลังคือทำงานเป็นกลุ่มอย่างมีคุณภาพ กำหนดหน้าที่ชัดเจน ร่วมกันทำงานอย่างร่วมมือร่วมใจดูแลกันและกัน โดยประยุกต์ใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการดำเนินงาน ในลักษณะวงจรคุณภาพแบบประยุกต์ ๓ วงรอบ
ดังนั้น จึงได้พัฒนาการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล ภายใต้รูปแบบการเรียนปกติ (Onsite) ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ขึ้น
๓.๒ จุดประสงค์และเป้าหมาย
จุดประสงค์
๑) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
๒) เพื่อพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
๓) เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๑ ห้องเรียน เป็นประชากรทั้งหมดจำนวน 10 คน ได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง ตามเกณฑ์ที่กำหนด
๓.๓ กระบวนการ หรือขั้นตอน
๑) การออกแบบผลงาน/ นวัตกรรม
การพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล ได้อาศัยหลักการและแนวคิดในการออกแบบและพัฒนา ดังนี้
๑.๑) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) คือ การรวมกลุ่มของผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาในลักษณะของชุมชนทางวิชาชีพที่มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ การถอดบทเรียน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชุมชนแห่งการเรียนรู้มีลักษณะเฉพาะดังนี้ ๑.การแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมวิชาชีพและผู้ที่เกี่ยวข้อง ๒.มีวัฒนธรรมการร่วมพลังเป็นการร่วมมือร่วมพลังของผู้บริหาร ผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และชุมชน ๓.เป็นการให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียน หรือผลการเรียนรู้ของนักเรียน ๔.มีการแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งการศึกษาแบบเยี่ยมเยียนเพื่อเปิดโลกทัศน์ และ ๕.มีการสะท้อนคิดด้วยสุนทรียสนทนา โดยมีกระบวนการเริ่มด้วยการสร้างทีม การเลือกปัญหา การประชุม/การออกแบบบทเรียน การลงมือปฏิบัติ และการสะท้อนผล
๑.๒) การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) คือ การพัฒนาครูวิชาชีพที่ว่าด้วยการพัฒนาตนเองของครู ในบริบทการทำงานจริงในชั้นเรียนและในโรงเรียนของตนผ่านการทำงานแบบรวมพลังของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ซึ่งดำเนินงานโดยร่วมกันเลือกบทเรียนที่ต้องการสอนมาทำการศึกษาตามขั้นตอนของกระบวนการพัฒนาบทเรียนร่วมกันประกอบด้วย ๑.การวิเคราะห์ (Analyze) เป็นการวิเคราะห์แบบรวมพลังในเนื้อหาที่จะจัดการเรียนรู้และวิเคราะห์ตัวชี้วัดของมาตรฐานการเรียนรู้ ๒.การวางแผน (Plan) เป็นการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้อย่างรวมพลังเน้นกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง 5 ขั้นตอนร่วมกับการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓.การปฏิบัติและสังเกต (Do & See) เป็นขั้นตอนที่ผู้วางแผนปฏิบัติการเรียนการสอนตามแผน โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพรวมพลังสังเกตพฤติกรรมการเรียนของกลุ่มนักเรียนที่จัดแบบคละเพศและคละความสามารถ ๔.การสะท้อนคิด (Reflect) เป็นขั้นที่ครูผู้วางแผนและชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพรวมพลังสะท้อนคิดด้วยการสนทนาแบบสุนทรียสนทนา โดยเน้นที่ผลลัพธ์ของนักเรียน และ ๕.การออกแบบใหม่ (Redesign) เป็นขั้นที่ชุมชนแห่งการเรียนรู้นำข้อมูลข้อคิดจากการสะท้อนคิดแบบรวมพลัง มาแนะนำให้ผู้สอนปรับแผนการจัดการเรียนรู้ในฉบับนั้น และแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบของการเขียนแผน โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่เพื่อแก้ปัญหานักเรียนให้ได้ผลลัพธ์ตามกำหนด
๑.๓) กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง 5 ขั้นตอน (Collaborative 5 STEPs) เป็นแนวการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งประยุกต์ใช้ความรู้ได้บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนมีการปฏิบัติกิจกรรมแบบทำงานกลุ่มรวมพลัง โดยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เด็กเก่งช่วยเด็กเรียนช้ากว่า เด็กถนัดกว่าช่วยเด็กถนัดน้อยกว่า เพื่อให้มีความสุขในการเรียน บทบาทของผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ ส่วนบทบาทของครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก โดยมีขั้นตอนดังนี้ ๑.ขั้นเสนอสิ่งเร้าและระบุคำถามสำคัญอย่างร่วมพลัง ๒.ขั้นแสวงหาสารสนเทศและวิเคราะห์อย่างรวมพลัง ๓.ขั้นรวมพลังอภิปรายและสร้างความรู้ ๔.ขั้นสื่อสารและสะท้อนคิดอย่างรวมพลัง และ ๕.ขั้นประยุกต์และตอบแทนสังคม
๑.๔) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ การจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้าง ปลูกฝัง และเสริมสร้าง วิธีการคิดและคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓ หลักการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี บนพื้นฐานการใช้ความรู้ ซึ่งรวมถึงความซื่อสัตย์สุจริต ขยัน อดทน ความเพียร มีน้ำใจ การใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต และใช้ความรู้ทางหลักวิชาการอย่างรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อการนำสู่การพัฒนาตนให้ชีวิตก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุลและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงใน ๔ มิติ ได้แก่ ด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยยึดการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง Version ๓.๓ ของศูนย์สถานศึกษาพอเพียง มูลนิธิยุวสถิรคุณ
๑.๕) คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ คือ การจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การเรียนรู้ ๓Rs8Cs ได้แก่
(๑) คุณลักษณะการเรียนรู้ ๓Rs ประกอบด้วย การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การใช้ตัวเลข (Arithmetic)
(๒) ทักษะการเรียนรู้ ๘Cs ประกอบด้วย ๑.ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ๒.ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ๓.ทักษะด้านความเข้าใจความแตกต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ๔.ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration Teamwork and Leadership) ๕.ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications Information and Media Literacy) ๖.ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ๗.ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) และ ๘.ความมีเมตตากรุณา มีวินัย คุณธรรม และจริยธรรม (Compassion)
๒) การดำเนินงานตามกิจกรรม
การดำเนินงานตามการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รายวิชาสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีการประยุกต์ใช้กระบวนการตามแนวเดมมิ่ง (Demming Approach) คือ PDCA ร่วมกับกระบวนการ PLC ดังนี้
การวางแผน (Plan)
ขั้นตอนที่ ๑ การสร้างและพัฒนาทีม PLC โดยมีดำเนินการวางแผนพัฒนาตนเองของครูมืออาชีพ (ID Plan) มีการศึกษาความรู้เพิ่มเติมโดยการประชุมการจัดกิจกรรมที่เอื้อต่อการบ่มเพาะคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง ตามโครงการการเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาอุปนิสัยพอเพียงของนักเรียนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ ๒๒ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ และรวมกลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สมาชิกประกอบด้วย
๑) นางสาวสุณิสา โคตรโมลี ตำแหน่งครู บทบาทครูผู้วางแผน (Model T.)
๒) นางสาวพรนิภา แสงคำ ตำแหน่งครู บทบาทครูผู้ร่วมวางแผน (Buddy T.)
3 ) นางสาวจิราพร ขยันชม ตำแหน่งครู บทบาทครูผู้ร่วมวางแผน (Buddy T.)
4) นางปฎิชญา ดำวรรณ ตำแหน่งครู บทบาทพี่เลี้ยง (Mentor T.)
5) นายอนุพงษ์ ชุมแวงวาปี ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน (School Admin)
บทบาทที่ปรึกษา
6) นายสนิท มหาโยธี ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา (Expert)
บทบาทผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นตอนที่ ๒ การวิเคราะห์และเลือกปัญหา (Analyze) โดยการวิเคราะห์หลักสูตร วิเคราะห์และเสนอประเด็นปัญหาหรือประเด็นในการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน จากนั้นพัฒนาแผนการจัดการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา หน่วยการเรียนรู้ที่5จำนวน 3 แผน รวมทั้งหมด 9 ชั่วโมง เป็นการวางแผนการออกแบบการเรียนรู้ระหว่างครูผู้วางแผน (Model T.) กับครูผู้ร่วมวางแผน (Buddy T.)
ขั้นตอนที่ ๓ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Plan) โดยกลุ่ม PLC ซึ่งประกอบด้วย ครูผู้วางแผน ครูผู้ร่วมวางแผน พี่เลี้ยง ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันวางแผนและให้การชี้แนะ และคำปรึกษาในการออกแบบการจัดการเรียนรู้และการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการวางแผนเรื่องการจัดการชั้นเรียนตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) การจัดโต๊ะเรียนแบบเป็นกลุ่ม การเตรียมสื่อการเรียนรู้ และเครื่องมือในการวัดและประเมินผลคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน
การลงมือปฏิบัติ (Do)
ขั้นตอนที่ ๔ การปฏิบัติและสังเกตการณ์ (Do & See) นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างไปปฏิบัติการจัดการเรียนรู้โดยมีกลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมสังเกตการณ์ ครูผู้สอนเขียนบันทึกหลังการสอน โดยมีรายละเอียดการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
แผนที่ ๑ เรื่องปฏิบัติตนตามสิทธิของผู้บริโภค สอนวันที่ 3 กรกฎาคม 2563
แผนที่ ๒ เรื่องแนวทางการปฏิบัติตนตามสิทธิของผู้บริโภค สอนวันที่ 24 กรกฎาคม 2563
การตรวจสอบ (Check)
ขั้นตอนที่ ๕ การสะท้อนความคิด (Reflect) กลุ่ม PLC ซึ่งประกอบด้วย ครูผู้วางแผน ครูผู้ร่วมวางแผน พี่เลี้ยง ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ สะท้อนความคิดโดยครูผู้วางแผนเป็นผู้สะท้อนความคิดเกี่ยวกับความสำเร็จ จุดเด่น จุดที่ต้องแก้ไขในการจัดการเรียนรู้ แล้วกลุ่ม PLC ร่วมกันสะท้อนความคิดทั้งจุดเด่น จุดด้อย ปัญหา อุปสรรค รวมทั้งแนะนำวิธีการแก้ปัญหา เน้นสุนทรียสนทนา
การปรับปรุง (Act)
ขั้นตอนที่ ๖ การปรับปรุงใหม่ (Redesign) การแนะนำให้ปรับแก้แผนการจัดการเรียนรู้และกระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน ตลอดจนการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น
๔) ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
จากการดำเนินงานสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา โดยเป็นนวัตกรรมองค์ความรู้ใหม่ รูปแบบ วิธีการที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพนักเรียนด้านคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และสอดคล้องกับตามสภาพบริบทของโรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล และการป้องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
๔) การประยุกต์ใช้ทรัพยากร
๔.๑) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่อยู่ในโรงเรียนและห้องเรียน เช่น การใช้สื่อออนไลน์ (Online) การใช้สื่อการเรียนการสอนทางไกล (DLTV) การใช้ DEEP การการสืบค้นข้อมูล การใช้ Face book YouTube เป็นต้น
๔.๒) การประยุกต์ใช้แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน เช่น ห้องสมุดโรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล
๔.๓) การขอความอนุเคราะห์ครูผู้สอนในวิชาต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมการบูรณาการในการเรียนรู้ของนักเรียน การนำเสนอผลงานผู้ปกครองนักเรียนในการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทัศนคติ และประสบการณ์ในการเรียนรู้กับนักเรียน เป็นต้น
๓.๔ ผลการดำเนินงาน
๑) ผลที่เกิดตามจุดประสงค์
๑.๑ ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ พบว่า นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนรวมเฉลี่ย ๒6.8๐ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๘๐
๒) ผลสัมฤทธิ์ของงาน
รูปแบบพัฒนาการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สามารถนำไปใช้พัฒนานักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงได้อย่างมั่นใจแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบ มีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน และขั้นตอนแต่ละขั้นตอนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มีการใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง และเป็นขั้นตอน รวมกับการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน เป็นแนวการสอนที่สามารถนำวิธีสอนต่างๆ เทคนิคการสอนที่เสริมสร้างการคิด เทคนิคการสอนที่เสริมสร้างการทำงานร่วมกัน การช่วยเหลือกันอย่างมีน้ำใจต่อกัน อีกทั้งเทคนิคการคิดเพื่อให้เกิดความเสมอภาค ได้ผลการเรียนรู้เป็นภาพมาตรฐานการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งเด็กคนใดไว้ (No Child Left Behind) รวมถึงการบูรณาการหลักคิด หลักปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ของงานอย่างยั่งยืน
๓) ประโยชน์ที่ได้รับ
นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกันกับครูผู้สอนและผู้ปกครอง โดยนักเรียนถือเป็นส่วนหนึ่งของทีมการเรียนรู้ ส่วนครูผู้สอน ผู้ปกครอง และชุมชน ก็ได้เรียนรู้จากกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนจนประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ของนักปฏิบัติ (PLC) ก่อให้เกิดคุณค่าในทางการปฏิบัติ และคุณค่าในทางวิชาการ ดังนี้
๓.๑ การนำผลไปใช้ในทางปฏิบัติ
รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้เป็นทิศทางการวิจัยเพื่อแสวงหาและพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งสามารถนำผลไปใช้ในทางปฏิบัติ โดยนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นที่มีธรรมชาติของรายวิชาใกล้เคียง ส่งผลให้นักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงสูงขึ้น
๓.๒ การนำผลไปใช้ในทางวิชาการ
รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งสามารถนำผลไปใช้ในทางวิชาการ โดยนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ได้ไปพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนของตนเอง ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ไปใช้ในชีวิตจริง นักเรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง และนำไปเป็นเครื่องมือในการศึกษาเรียนรู้ของตนเองและประเทศชาติ พร้อมทั้งทำการศึกษาวิจัยและแลกเปลี่ยนผลการวิจัยตามทิศทางการวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๓.๕ ปัจจัยความสำเร็จ
๑) ด้านบุคคล การนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ ครูผู้สอนควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบการจัดการเรียนรู้ให้ชัดเจนก่อนนำไปใช้ โดยครูผู้สอนที่นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้นี้ไปใช้ จะมีบทบาทที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยเปลี่ยนจากผู้ถ่ายทอดความรู้ มาเป็นผู้ที่คอยอำนวยความสะดวก และเป็นผู้คอยชี้แนะการปฏิบัติงานของนักเรียน และบทบาทของนักเรียนที่เรียนรู้เป็นทีมการเรียนรู้หรือทีมการทำงานแบบรวมพลัง ที่มีนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน เพื่อให้มีการช่วยเหลือกัน นักเรียนที่เก่งกว่าสามารถช่วยเหลือนักเรียนที่อ่อนกว่าได้ โดยครูผู้สอนต้องเสริมให้กำลังใจนักเรียนอ่อน เพื่อให้นักเรียนอ่อนมีบทบาทมากขึ้น
๒) ด้านหน่วยงาน/องค์กร คือ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูลและสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้การยอมรับ ปรับปรุง และพัฒนาการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถด้านอื่นๆ ของนักเรียนโดยนำกระบวนการหรือขั้นตอนการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นี้ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาและศึกษาผลของรูปแบบที่พัฒนาขึ้นต่อไป และขยายผลการศึกษาเพื่อตรวจสอบซ้ำ เพื่อให้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยการศึกษาผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นๆ
๓) กลวิธี/ กลยุทธ์ คือ การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการจัดการเรียนรู้ของครูจากการเรียนรู้ของครูจากการเรียนรู้เชิงรับ (Passive Learning) ไปเป็นการเรียนรู้เชิงรุกแบบรวมพลัง (Collaborative Active Learning)
๓.๖ บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)
๑) ข้อสรุป คือ รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสุขศึกษา ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสามารถพัฒนาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคุณลักษณะ