ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน

ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ผู้รายงาน มนัสชฎา กุญชร

ปีที่ศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม เพื่อศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม ประชากรที่ใช้ในการศึกษา เป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหล่ายฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 19 คน เป็นเด็กชาย 9 คน เด็กหญิง 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) คู่มือการจัดกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ จำนวน 1 เล่ม 30 กิจกรรม 2) แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 30 แผน 3)แบบประเมินวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ก่อนและหลังการจัดแผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2โดยใช้แบบประเมินวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่ 1 แบบประเมินวัดทักษะการสังเกต 5 ข้อ ชุดที่ 2 แบบประเมินวัดทักษะการจำแนก 5 ข้อ ชุดที่3 แบบประเมินวัดทักษะการวัด 5 ข้อ และชุดที่ 4 แบบประเมินวัดทักษะการลงความเห็น 5 ข้อ เก็บและรวบรวมข้อมูลโดยการประเมินก่อนการจัดกิจกรรมและประเมินหลังการจัดกิจกรรม เมื่อจัดกิจกรรมครบ 30 กิจกรรมและรวบรวมผลการประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมช่วงสัปดาห์ จำนวน 10 ครั้ง ตามแผนการจัดประสบการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยจำนวน 30 แผน เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระหว่างจัดกิจกรรมและรวบรวมผลการประเมินก่อนและหลังการจัดกิจกรรมไว้วิเคราะห์หาค่า ความแตกต่างของคะแนนก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (μ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และค่าร้อยละของความก้าวหน้า คือ ร้อยละของคะแนนที่เปลี่ยนแปลง (Precentage + Change : P.C) นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางประกอบการพรรณา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล ปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น เริ่มสัปดาห์แรกมีการจัดกิจกรรมประเมินผล ผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ 1.63, 1.74, 1.67,1.67 ตามลำดับจากนั้นมีการจัดกิจกรรมและประเมินผลพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์ที่ 5 ผลปรากฏว่า เด็กมีผลการพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกทักษะ ทักษะการสังเกตตั้งแต่สัปดาห์ ที่ 6-10 อยู่ในระดับดี มีพัฒนาการเพิ่มสูงสุดสัปดาห์ที่ 10 อยู่ในระดับดี (3.00) ส่วนทักษะการจำแนก มีพัฒนาการ สัปดาห์ที่ 6-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (3.00) ทักษะการวัด ผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นตามลำดับและในสัปดาห์ที่ 6-10 อยู่ในระดับดีสูงสุด (3.00) ทักษะการลงความเห็น ผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 6-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (3.00) เด็กมีผลการพัฒนารายทักษะทั้ง 4 ด้าน เฉลี่ยอยู่ในระดับพอใช้คือ 2.42,2.41, 2.39,2.41ตามลำดับ และภาพรวมสัปดาห์แรกอยู่ในระดับพอใช้ (1.68)ต่อมามีการจัดกิจกรรมและประเมินผลปรากฎว่าเด็กมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 5 อยู่ในระดับพอใช้1.88,2.04,2.15,2.140ในสัปดาห์ที่ 6 -10 อยู่ในระดับดี 2.65,2.70,2.74,2.86,3.00 ได้ค่าคะแนนเฉลี่ย 10 สัปดาห์อยู่ที่ 2.41 อยู่ในระดับพอใช้ 2. ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น เด็กมีคะแนนการประเมินหลังใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 4.68, 4.37 ,4.21,4.58 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.46 มากกว่าคะแนนการประเมินก่อนการใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 1.37, 1.32 ,1.37,1.47 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 1.38 แสดงว่าความแตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม 3.31,3.15,2.84,3.11ภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 3.08 เมื่อประเมินความก้าวหน้าด้วยค่าร้อยละ ปรากฎว่าเด็กมีผลคะแนนความก้าวหน้าทักษะการสังเกต ร้อยละ 66.20 ทักษะการจำแนก ร้อยละ 63.00 ทักษะการวัด ร้อยละ 56.80 ทักษะการลงความเห็น ร้อยละ62.20และภาพรวมร้อยละ61.60 ตามลำดับแสดงว่าผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เด็กมีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็นและภาพรวมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม

โพสต์โดย เจี๊ยบ : [26 ส.ค. 2563 เวลา 11:38 น.]
อ่าน [5038] ไอพี : 124.122.20.66
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 59,871 ครั้ง
เหตุใดน้ำแข็ง จึงลอยอยู่บนน้ำได้
เหตุใดน้ำแข็ง จึงลอยอยู่บนน้ำได้

เปิดอ่าน 18,085 ครั้ง
ประเพณีขึ้นโขนชิงธง"คลองหัววัง-พนังตัก" เมืองชุมพร
ประเพณีขึ้นโขนชิงธง"คลองหัววัง-พนังตัก" เมืองชุมพร

เปิดอ่าน 30,768 ครั้ง
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด
ภาพกีฬามันๆ โหด มัน ฮา ตลก ขำๆ มาดูกันคลายเครียด

เปิดอ่าน 11,556 ครั้ง
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา

เปิดอ่าน 18,248 ครั้ง
How To Learn English
How To Learn English

เปิดอ่าน 18,537 ครั้ง
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที

เปิดอ่าน 9,197 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 18,483 ครั้ง
1 ใน 3 วิตามินรวม ผลิตไม่ได้มาตรฐาน
1 ใน 3 วิตามินรวม ผลิตไม่ได้มาตรฐาน

เปิดอ่าน 19,980 ครั้ง
งานสัมมนา เปิดโลกการอ่านด้วยวรรณกรรมระดับโลก
งานสัมมนา เปิดโลกการอ่านด้วยวรรณกรรมระดับโลก

เปิดอ่าน 10,900 ครั้ง
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 19,887 ครั้ง
ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 18,000 ครั้ง
เลือกกระเบื้องให้เข้ากับห้อง
เลือกกระเบื้องให้เข้ากับห้อง

เปิดอ่าน 19,159 ครั้ง
ไขปริศนา ทำไม "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ชอบใส่เสื้อ"เหมือนกัน"ทุกวัน
ไขปริศนา ทำไม "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ชอบใส่เสื้อ"เหมือนกัน"ทุกวัน

เปิดอ่าน 2,870 ครั้ง
ประกันเดินทางต่างประเทศ (Travel Insurance) ประกันที่คนเดินทางควรทำไว้
ประกันเดินทางต่างประเทศ (Travel Insurance) ประกันที่คนเดินทางควรทำไว้

เปิดอ่าน 12,607 ครั้ง
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?

เปิดอ่าน 1,014 ครั้ง
5 ไอเดียเก็บรักษาปากกาสำหรับนักสะสม ให้สภาพสมบูรณ์ สวยใหม่อยู่เสมอ
5 ไอเดียเก็บรักษาปากกาสำหรับนักสะสม ให้สภาพสมบูรณ์ สวยใหม่อยู่เสมอ
เปิดอ่าน 102,133 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
เปิดอ่าน 12,636 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติตามข้อบังคับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2552
คู่มือการปฏิบัติตามข้อบังคับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2552
เปิดอ่าน 29,156 ครั้ง
โปรแกรมแว่นขยาย
โปรแกรมแว่นขยาย
เปิดอ่าน 38,520 ครั้ง
วิธีกำจัดไฟฟ้าสถิตออกจากเสื้อผ้า
วิธีกำจัดไฟฟ้าสถิตออกจากเสื้อผ้า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ