การพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล
๓.๑ ความเป็นมา และความสำคัญ
๑) ความเป็นมาและสภาพปัญหา
การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาการศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาประเทศ (ศุภร ศรีแสน, ๒๕๔๑, น. ๑) นอกจากนี้ การจัดการศึกษาที่ดีควรมีการปูพื้นฐานที่ดีให้แก่ผู้เรียนเพิ่มพูนความรู้และทักษะพื้นฐานในการทำงาน เพื่อเสริมสร้างผลิตภาพแรงงานให้สูงขึ้นทั้งการคิดวิเคราะห์สร้างสรรค์แก้ปัญหาตัดสินใจทำงานเป็นทีม มีจริยธรรม มีวินัยในการทำงาน สามารถรองรับและเรียนรู้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนได้ง่าย ปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และพร้อมก้าวสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๕๐, น. ๕๓) ซึ่งได้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กล่าวว่า มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกําลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุล ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม และมีจิตสํานึก ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติ ที่จําเป็น ต่อการศึกษา ต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ บนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ(กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑, น. ๓)
ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการที่ต้องการให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาต่าง ๆ ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถที่สำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งมีคุณภาพมากกว่าความสามารถด้านอื่น ๆ และเป็นปัจจัยที่จำเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ (อารี พันธ์มณี, ๒๕๔๗) เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถของบุคคลที่แสดงความคิดหลากหลายทิศทาง หลายแง่มุม โดยนำประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นพื้นฐานทำให้เกิดความคิดใหม่ อันนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง ๆ ที่แปลกใหม่ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสภาพการดำรงชีวิตของมนุษย์ ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์จึงมีผลต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ดังนั้นเด็กและเยาวชนของชาติจึงควรได้รับการฝึกทักษะการคิดให้มีความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่เยาว์วัย (สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ, ๒๕๕๑) และความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นกระบวนการทางความคิดที่มีความสำคัญต่อเด็ก ทำให้เด็กสร้างความคิด สร้างจินตนาการ ไม่จนต่อสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่กำหนดไว้ ความคิดสร้างสรรค์คือพลังความคิดที่เด็ก ๆ ทุกคนมีมาแต่กำเนิด หากได้รับการกระตุ้น การพัฒนาพลังแห่งการสร้างสรรค์จะทำให้เด็ก ๆ เป็นคนมีอิสระทางความคิดมีความคิดที่ฉีกกรอบ และสามารถหาหนทางในการที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ
การจัดการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล มีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ผู้เรียนอธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันและวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ระบุปัญหาหรือความต้องการในชีวิตประจำวัน รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ ปัญหา ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น นำเสนอ แนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจ วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และ นําเสนอผลการแก้ปัญหา สามารถทำงานเป็นหมู่คณะมีนิสัยรักการทำงาน เห็นคุณค่าละมีเจตคติที่ดีต่องาน ตลอดจนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมพื้นฐาน ได้แก่ ความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัดและอดทน นำไปสู่การให้ผู้เรียนสามารถได้ช่วยเหลือตนเองและเพิ่งตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ร่วมมือและแข่งขันในระดับสากลในบริบทของสังคมไทย
จากรายงานของกลุ่มงานวิชาการ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ และการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา รวมทั้งการสังเกต สำรวจด้วยแบบสอบถามครู พบว่า ผู้เรียนขาดทักษะด้านการคิด แก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนมองว่าเป็นเรื่องที่ยากเกินไป จึงไม่คิดที่จะลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเอง เกิดการลอกเลียนแบบงาน อีกทั้งผู้เรียนยังขาดทักษะการทำงานร่วมกัน ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ซึ่งแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำลง
๒) แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา
แนวทางหนึ่งที่โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล โดยความร่วมมือของคุรุสภา ได้ร่วมดำเนินการผ่านโครงการการพัฒนางานวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นฐาน (Professional Learning Community: PLC) จนประสบความสำเร็จ คือ การจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสืบสอบด้วยการทำงานกลุ่ม หรือเป็นทีม หรือเรียกว่าการเรียนรู้แบบร่วมพลัง ด้วยเหตุผลเราะแนวการสอนดังกล่าวเน้นให้นักเรียนสืบสอบ หรือแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ ซึ่งต้องอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์เป็นหลัก และการเรียนรู้แบบร่วมพลังคือทำงานเป็นกลุ่มอย่างมีคุณภาพ กำหนดหน้าที่ชัดเจน ร่วมกันทำงานอย่างร่วมมือร่วมใจดูแลกันและกัน โดยประยุกต์ใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการดำเนินงาน ในลักษณะวงจรคุณภาพแบบประยุกต์ ๓ วงรอบ
ดังนั้น จึงได้พัฒนาการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล ภายใต้รูปแบบการเรียนปกติ (Onsite) ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ขึ้น
๓.๒ จุดประสงค์และเป้าหมาย
จุดประสงค์
๑) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
๒) เพื่อพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
๓) เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่๑ รายวิชาเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๑ ห้องเรียน เป็นประชากรทั้งหมดจำนวน ๑๑ คน ได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง ตามเกณฑ์ที่กำหนด
๓.๓ กระบวนการ หรือขั้นตอน
๑) การออกแบบผลงาน/ นวัตกรรม
การพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล ได้อาศัยหลักการและแนวคิดในการออกแบบและพัฒนา ดังนี้
๑.๑) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) คือ การรวมกลุ่มของผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาในลักษณะของชุมชนทางวิชาชีพที่มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ การถอดบทเรียน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชุมชนแห่งการเรียนรู้มีลักษณะเฉพาะดังนี้ ๑.การแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมวิชาชีพและผู้ที่เกี่ยวข้อง ๒.มีวัฒนธรรมการร่วมพลังเป็นการร่วมมือร่วมพลังของผู้บริหาร ผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และชุมชน ๓.เป็นการให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียน หรือผลการเรียนรู้ของนักเรียน ๔.มีการแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งการศึกษาแบบเยี่ยมเยียนเพื่อเปิดโลกทัศน์ และ ๕.มีการสะท้อนคิดด้วยสุนทรียสนทนา โดยมีกระบวนการเริ่มด้วยการสร้างทีม การเลือกปัญหา การประชุม/การออกแบบบทเรียน การลงมือปฏิบัติ และการสะท้อนผล
๑.๒) การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) คือ การพัฒนาครูวิชาชีพที่ว่าด้วยการพัฒนาตนเองของครู ในบริบทการทำงานจริงในชั้นเรียนและในโรงเรียนของตนผ่านการทำงานแบบรวมพลังของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ซึ่งดำเนินงานโดยร่วมกันเลือกบทเรียนที่ต้องการสอนมาทำการศึกษาตามขั้นตอนของกระบวนการพัฒนาบทเรียนร่วมกันประกอบด้วย ๑.การวิเคราะห์ (Analyze) เป็นการวิเคราะห์แบบรวมพลังในเนื้อหาที่จะจัดการเรียนรู้และวิเคราะห์ตัวชี้วัดของมาตรฐานการเรียนรู้ ๒.การวางแผน (Plan) เป็นการออกแบบและเขียนแผนการจัดการเรียนรู้อย่างรวมพลังเน้นกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอนร่วมกับการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓.การปฏิบัติและสังเกต (Do & See) เป็นขั้นตอนที่ผู้วางแผนปฏิบัติการเรียนการสอนตามแผน โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพรวมพลังสังเกตพฤติกรรมการเรียนของกลุ่มนักเรียนที่จัดแบบคละเพศและคละความสามารถ ๔.การสะท้อนคิด (Reflect) เป็นขั้นที่ครูผู้วางแผนและชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพรวมพลังสะท้อนคิดด้วยการสนทนาแบบสุนทรียสนทนา โดยเน้นที่ผลลัพธ์ของนักเรียน และ ๕.การออกแบบใหม่ (Redesign) เป็นขั้นที่ชุมชนแห่งการเรียนรู้นำข้อมูลข้อคิดจากการสะท้อนคิดแบบรวมพลัง มาแนะนำให้ผู้สอนปรับแผนการจัดการเรียนรู้ในฉบับนั้น และแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบของการเขียนแผน โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่เพื่อแก้ปัญหานักเรียนให้ได้ผลลัพธ์ตามกำหนด
๑.๓) กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน (Collaborative 5 STEPs) เป็นแนวการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งประยุกต์ใช้ความรู้ได้บนฐานวิธีการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนมีการปฏิบัติกิจกรรมแบบทำงานกลุ่มรวมพลัง โดยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เด็กเก่งช่วยเด็กเรียนช้ากว่า เด็กถนัดกว่าช่วยเด็กถนัดน้อยกว่า เพื่อให้มีความสุขในการเรียน บทบาทของผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ ส่วนบทบาทของครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก โดยมีขั้นตอนดังนี้ ๑.ขั้นเสนอสิ่งเร้าและระบุคำถามสำคัญอย่างร่วมพลัง ๒.ขั้นแสวงหาสารสนเทศและวิเคราะห์อย่างรวมพลัง ๓.ขั้นรวมพลังอภิปรายและสร้างความรู้ ๔.ขั้นสื่อสารและสะท้อนคิดอย่างรวมพลัง และ ๕.ขั้นประยุกต์และตอบแทนสังคม
๑.๔) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ การจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้าง ปลูกฝัง และเสริมสร้าง วิธีการคิดและคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓ หลักการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี บนพื้นฐานการใช้ความรู้ ซึ่งรวมถึงความซื่อสัตย์สุจริต ขยัน อดทน ความเพียร มีน้ำใจ การใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต และใช้ความรู้ทางหลักวิชาการอย่างรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อการนำสู่การพัฒนาตนให้ชีวิตก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุลและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงใน ๔ มิติ ได้แก่ ด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยยึดการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง Version ๓.๓ ของศูนย์สถานศึกษาพอเพียง มูลนิธิยุวสถิรคุณ
๑.๕) คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ คือ การจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ การเรียนรู้ ๓Rs๘Cs ได้แก่
(๑) คุณลักษณะการเรียนรู้ ๓Rs ประกอบด้วย การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การใช้ตัวเลข (Arithmetic)
(๒) ทักษะการเรียนรู้ ๘Cs ประกอบด้วย ๑.ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ๒.ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ๓.ทักษะด้านความเข้าใจความแตกต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ๔.ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration Teamwork and Leadership) ๕.ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications Information and Media Literacy) ๖.ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ๗.ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) และ ๘.ความมีเมตตากรุณา มีวินัย คุณธรรม และจริยธรรม (Compassion)
๒) การดำเนินงานตามกิจกรรม
การดำเนินงานตามการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีการประยุกต์ใช้กระบวนการตามแนวเดมมิ่ง (Demming Approach) คือ PDCA ร่วมกับกระบวนการ PLC ดังนี้
การวางแผน (Plan)
ขั้นตอนที่ ๑ การสร้างและพัฒนาทีม PLC โดยมีดำเนินการวางแผนพัฒนาตนเองของครูมืออาชีพ (ID Plan) มีการศึกษาความรู้เพิ่มเติมโดยการประชุมการจัดกิจกรรมที่เอื้อต่อการบ่มเพาะคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง ตามโครงการการเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาอุปนิสัยพอเพียงของนักเรียนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ ๒๒ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ และรวมกลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สมาชิกประกอบด้วย
๑) นางปภิชญา ดำวรรณ ตำแหน่งครู บทบาทครูผู้วางแผน (Model T.)
๒) นางจุฬารัตน์ ศรีสุนาครัว ตำแหน่งครู บทบาทครูผู้ร่วมวางแผน (Buddy T.)
๓) นายมานพ ศรีจันเทพ ตำแหน่งครู บทบาทครูผู้ร่วมวางแผน (Buddy T.)
๔) นางวิลานี ศรีมุกดา ตำแหน่งครู บทบาทพี่เลี้ยง (Mentor T.)
๔) นายอนุพงษ์ ชุมแวงวาปี ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน บทบาทที่ปรึกษา
๕) นายสนิท มหาโยธี ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา บทบาทผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นตอนที่ ๒ การวิเคราะห์และเลือกปัญหา (Analyze) โดยการวิเคราะห์หลักสูตร วิเคราะห์และเสนอประเด็นปัญหาหรือประเด็นในการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน จากนั้นพัฒนาแผนการจัดการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ จำนวน ๖แผน รวมทั้งหมด ๑๒ ชั่วโมง เป็นการวางแผนการออกแบบการเรียนรู้ระหว่างครูผู้วางแผน (Model T.) กับครูผู้ร่วมวางแผน (Buddy T.)
ขั้นตอนที่ ๓ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Plan) โดยกลุ่ม PLC ซึ่งประกอบด้วย ครูผู้วางแผน ครูผู้ร่วมวางแผน พี่เลี้ยง ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันวางแผนและให้การชี้แนะ และคำปรึกษาในการออกแบบการจัดการเรียนรู้และการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการวางแผนเรื่องการจัดการชั้นเรียนตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) การจัดโต๊ะเรียนแบบเป็นกลุ่ม การเตรียมสื่อการเรียนรู้ และเครื่องมือในการวัดและประเมินผลคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียน
การลงมือปฏิบัติ (Do)
ขั้นตอนที่ ๔ การปฏิบัติและสังเกตการณ์ (Do & See) นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างไปปฏิบัติการจัดการเรียนรู้โดยมีกลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมสังเกตการณ์ ครูผู้สอนเขียนบันทึกหลังการสอน
การตรวจสอบ (Check)
ขั้นตอนที่ ๕ การสะท้อนความคิด (Reflect) กลุ่ม PLC ซึ่งประกอบด้วย ครูผู้วางแผน ครูผู้ร่วมวางแผน พี่เลี้ยง ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ สะท้อนความคิดโดยครูผู้วางแผนเป็นผู้สะท้อนความคิดเกี่ยวกับความสำเร็จ จุดเด่น จุดที่ต้องแก้ไขในการจัดการเรียนรู้ แล้วกลุ่ม PLC ร่วมกันสะท้อนความคิดทั้งจุดเด่น จุดด้อย ปัญหา อุปสรรค รวมทั้งแนะนำวิธีการแก้ปัญหา เน้นสุนทรียสนทนา
การปรับปรุง (Act)
ขั้นตอนที่ ๖ การปรับปรุงใหม่ (Redesign) การแนะนำให้ปรับแก้แผนการจัดการเรียนรู้และกระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน ตลอดจนการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น
๔) ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
จากการดำเนินงานสามารถพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ พัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) โดยเป็นนวัตกรรมองค์ความรู้ใหม่ รูปแบบ วิธีการที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพนักเรียนด้านคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และสอดคล้องกับตามสภาพบริบทของโรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูล และการป้องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
๔) การประยุกต์ใช้ทรัพยากร
๔.๑) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่อยู่ในโรงเรียนและห้องเรียน เช่น การใช้สื่อออนไลน์ (Online) การใช้สื่อการเรียนการสอนทางไกล (DLTV) การใช้ DEEP การการสืบค้นข้อมูล การใช้ Face book YouTube เป็นต้น
๔.๒) การประยุกต์ใช้แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
๔.๓) การขอความอนุเคราะห์ครูผู้สอนในวิชาต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมการบูรณาการในการเรียนรู้ของนักเรียน การนำเสนอผลงานผู้ปกครองนักเรียนในการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทัศนคติ และประสบการณ์ในการเรียนรู้กับนักเรียน เป็นต้น
๓.๔ ผลการดำเนินงาน
๑) ผลที่เกิดตามจุดประสงค์
๑.๑ ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชาเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ พบว่า นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนรวมเฉลี่ย ๕๑.๐๙ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๘๐
๑.๒ ผลการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ พบว่า นักเรียนมีคะแนนคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) หลังเรียนรวมเฉลี่ย ๙๐.๕๙ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๗๕
๑.๓ ผลการพัฒนาคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุกแบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ พบว่า นักเรียนมีคะแนนคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง หลังเรียนรวมเฉลี่ย ๗๖.๓๖ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๘๐
๒) ผลสัมฤทธิ์ของงาน
รูปแบบพัฒนาการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สามารถนำไปใช้พัฒนานักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงได้อย่างมั่นใจแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบ มีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน และขั้นตอนแต่ละขั้นตอนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มีการใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง และเป็นขั้นตอน รวมกับการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลัง ๕ ขั้นตอน เป็นแนวการสอนที่สามารถนำวิธีสอนต่าง ๆ เทคนิคการสอนที่เสริมสร้างการคิด เทคนิคการสอนที่เสริมสร้างการทำงานร่วมกัน การช่วยเหลือกันอย่างมีน้ำใจต่อกัน อีกทั้งเทคนิคการคิดเพื่อให้เกิดความเสมอภาค ได้ผลการเรียนรู้เป็นภาพมาตรฐานการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ทิ้งเด็กคนใดไว้ (No Child Left Behind) รวมถึงการบูรณาการหลักคิด หลักปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ของงานอย่างยั่งยืน
๓) ประโยชน์ที่ได้รับ
นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกันกับครูผู้สอนและผู้ปกครอง โดยนักเรียนถือเป็นส่วนหนึ่งของทีมการเรียนรู้ ส่วนครูผู้สอน ผู้ปกครอง และชุมชน ก็ได้เรียนรู้จากกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนจนประสบผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ของนักปฏิบัติ (PLC) ก่อให้เกิดคุณค่าในทางการปฏิบัติ และคุณค่าในทางวิชาการ ดังนี้
๓.๑ การนำผลไปใช้ในทางปฏิบัติ
รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้เป็นทิศทางการวิจัยเพื่อแสวงหาและพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งสามารถนำผลไปใช้ในทางปฏิบัติ โดยนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นที่มีธรรมชาติของรายวิชาใกล้เคียง ส่งผลให้นักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงสูงขึ้น
๓.๒ การนำผลไปใช้ในทางวิชาการ
รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งสามารถนำผลไปใช้ในทางวิชาการ โดยนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ได้ไปพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนของตนเอง ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ไปใช้ในชีวิตจริง นักเรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง และนำไปเป็นเครื่องมือในการศึกษาเรียนรู้ของตนเองและประเทศชาติ พร้อมทั้งทำการศึกษาวิจัยและแลกเปลี่ยนผลการวิจัยตามทิศทางการวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๓.๕ ปัจจัยความสำเร็จ
๑) ด้านบุคคล การนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ ครูผู้สอนควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบการจัดการเรียนรู้ให้ชัดเจนก่อนนำไปใช้ โดยครูผู้สอนที่นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้นี้ไปใช้ จะมีบทบาทที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยเปลี่ยนจากผู้ถ่ายทอดความรู้ มาเป็นผู้ที่คอยอำนวยความสะดวก และเป็นผู้คอยชี้แนะการปฏิบัติงานของนักเรียน และบทบาทของนักเรียนที่เรียนรู้เป็นทีมการเรียนรู้หรือทีมการทำงานแบบรวมพลัง ที่มีนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน เพื่อให้มีการช่วยเหลือกัน นักเรียนที่เก่งกว่าสามารถช่วยเหลือนักเรียนที่อ่อนกว่าได้ โดยครูผู้สอนต้องเสริมให้กำลังใจนักเรียนอ่อน เพื่อให้นักเรียนอ่อนมีบทบาทมากขึ้น
๒) ด้านหน่วยงาน/องค์กร คือ โรงเรียนยิ่งยวดพิทยานุกูลและสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้การยอมรับ ปรับปรุง และพัฒนาการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ ของนักเรียนโดยนำกระบวนการหรือขั้นตอนการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นี้ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาและศึกษาผลของรูปแบบที่พัฒนาขึ้นต่อไป และขยายผลการศึกษาเพื่อตรวจสอบซ้ำ เพื่อให้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยการศึกษาผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาอื่น ๆ
๓) กลวิธี/ กลยุทธ์ คือ การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการจัดการเรียนรู้ของครูจากการเรียนรู้ของครูจากการเรียนรู้เชิงรับ (Passive Learning) ไปเป็นการเรียนรู้เชิงรุกแบบรวมพลัง (Collaborative Active Learning)
๓.๖ บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)
๑) ข้อสรุป คือ รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ รายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบรวมพลังบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สามารถพัฒนาให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ (๓Rs๘Cs) และคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงได้อย่างมีประสิทธิผลจริง
๒) ข้อสังเกต/ ข้อเสนอแนะ คือ การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ควรศึกษาสภาพบริบทของโรงเรียนและความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคน รวมถึงต้องปรับปรุง/แก้ไขอยู่เสมอด้วยวงจรคุณภาพ เดมิ่ง (PDCA)
๓) แนวทางการพัฒนาต่อยอดสู่ความสำเร็จและยั่งยืน คือ การประยุกต์ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ และการวิจัยในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง