ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้

การวิจัยในครั้งนี้ ใช้วิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ร่วมกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ (Instructional Models of Cooperative Learning) เทคนิค STAD (Student Teams and Achievement Divisions : STAD) เทคนิค LT (Learning Together) และ เทคนิค NHT (Numbered Heads Together) โดยมีแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง เป็นสื่อในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เป็นหน่วยการวิเคราะห์ มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย คือ (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียน จากการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (3.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียน ระหว่างก่อนและหลังเรียน จากการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ โดยศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ คือ (1) แบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus groups) (2) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (3) แบบบันทึกการประชุมแบบมีส่วนร่วม และ (4) แบบประเมินร่างรูปแบบการเรียนรู้ และเครื่องมือในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผนการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยการประเมินคุณภาพ เท่ากับ 4.52 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.20-0.80 มีค่าอำนาจจำแนก 0.20 ขึ้นไป และมีค่าความเชื่อมั่นที่ 0.7209 (3) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าเฉลี่ยการประเมินคุณภาพ เท่ากับ 4.44 และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Pair)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยใช้แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า มีความสอดคล้อง โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 1.00 ทุกรายการ และพบว่า ควรมีการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 พบว่า ร่างรูปแบบการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ได้รูปแบบการเรียนรู้ ควรมีองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ หลักการแนวคิดทฤษฎี หลักการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และการประเมินผล ซึ่งผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.60

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ 84.00/86.33 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.73 หรือคิดเป็นร้อยละ 73.00 พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ทักษะการอ่านและการเขียน ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับแบบฝึกทักษะภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เรื่อง อักษรไทยฝึกใช้ให้คล่อง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.45

โพสต์โดย นิดา ทำเนาว์ : [24 ส.ค. 2563 เวลา 20:33 น.]
อ่าน [66443] ไอพี : 171.100.79.61
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,720 ครั้ง
ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่บ้านคุณ
ตรวจสอบฮวงจุ้ยที่บ้านคุณ

เปิดอ่าน 10,667 ครั้ง
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน

เปิดอ่าน 6,077 ครั้ง
การดูแล "มะยงชิด-มะปรางหวาน" เริ่มออกดอก
การดูแล "มะยงชิด-มะปรางหวาน" เริ่มออกดอก

เปิดอ่าน 10,970 ครั้ง
"จ๊อบไทย" ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่
"จ๊อบไทย" ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่

เปิดอ่าน 16,335 ครั้ง
สูตรดีท็อกซ์ทำเองได้! ง่าย ๆ แค่ 7 วัน
สูตรดีท็อกซ์ทำเองได้! ง่าย ๆ แค่ 7 วัน

เปิดอ่าน 23,133 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 22,187 ครั้ง
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน
รูปแบบของผลการเรียนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 48,532 ครั้ง
โปรแกรม วิเคราะห์ข้อสอบ
โปรแกรม วิเคราะห์ข้อสอบ

เปิดอ่าน 2,121 ครั้ง
เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่ม Multi-skill ให้ตัวเองด้วย
เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่ม Multi-skill ให้ตัวเองด้วย

เปิดอ่าน 15,164 ครั้ง
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี

เปิดอ่าน 15,331 ครั้ง
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า

เปิดอ่าน 30,296 ครั้ง
ICT2020 Conceptual Framework
ICT2020 Conceptual Framework

เปิดอ่าน 14,222 ครั้ง
10 ข้อดีของฟองน้ำ ที่มากกว่าแค่ใช้ล้างจาน
10 ข้อดีของฟองน้ำ ที่มากกว่าแค่ใช้ล้างจาน

เปิดอ่าน 26,988 ครั้ง
คลิปสาธิตวิธีแต่งหน้า แบบมุตตา-มุนินทร์ ในแรงเงา 2012
คลิปสาธิตวิธีแต่งหน้า แบบมุตตา-มุนินทร์ ในแรงเงา 2012

เปิดอ่าน 32,074 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 19,933 ครั้ง
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย
เปิดอ่าน 25,002 ครั้ง
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"
เปิดอ่าน 25,134 ครั้ง
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
เปิดอ่าน 10,357 ครั้ง
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
เปิดอ่าน 21,678 ครั้ง
ภาษาพูด
ภาษาพูด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ