ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่องการอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรม ด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่องการอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรม ด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางภัควลัญชณ์ อุปฐาก

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) เทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง

ปีที่ทำการวิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) สำนักการศึกษา เทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) หาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนเรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน เรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อพัฒนาการคิด 3) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 10 แผน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด จำนวน 50 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาประสิทธิภาพ E1/E2 หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมุติฐานด้วย t-test (Dependent Sample) และ t-test (lndependent Samples) ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยที่เชื่อมโยงการพัฒนาความสามารถทางการอ่านเพื่อพัฒนาการคิด พบว่า ครูส่วนมากยังขาดการสนับสนุนให้ผู้เรียนใช้ศักยภาพในการอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยเฉพาะการคิดอย่างพินิจพิเคราะห์ คิดหาเหตุผล แยกแยะข้อเท็จจริง และการพิจารณาคุณค่าของเรื่องที่อ่าน อีกทั้งชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 ส่วนมากยังมีความสามารถพื้นฐานการอ่านเพื่อพัฒนาการคิดในระดับพอใช้ และต้องการพัฒนาให้มีความสามารถด้านดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก โดยให้มีการพัฒนาแบบฝึกที่มีกิจกรรมหลากหลาย เนื้อหาใกล้ตัวนักเรียน รูปเล่มมีภาพประกอบที่มีสีสันสวยงาม ควรฝึกจากง่ายไปหายาก และเน้นการฝึกแบบกลุ่ม

2. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 86.68/83.44 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อพัฒนาการคิด ประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

4. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะประกอบการจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD มีค่าเท่ากับ 0.6924 ซึ่งแสดงว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6924 หรือคิดเป็นร้อยละ 69.24

5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน เรื่อง การอ่านเพื่อพัฒนาการคิด โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบ การจัดกิจกรรมด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูหญิง : [24 ส.ค. 2563 เวลา 12:11 น.]
อ่าน [3935] ไอพี : 119.42.84.135
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,739 ครั้ง
ช็อกโกแลตชาร์จสมอง ช่วยให้หัวแล่นทำคำนวณได้ไวดี
ช็อกโกแลตชาร์จสมอง ช่วยให้หัวแล่นทำคำนวณได้ไวดี

เปิดอ่าน 2,535 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 4,594 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน

เปิดอ่าน 8,037 ครั้ง
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2

เปิดอ่าน 31,565 ครั้ง
เทคนิคเพิ่มความเร็วในการอ่านภาษาอังกฤษ
เทคนิคเพิ่มความเร็วในการอ่านภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 12,755 ครั้ง
7 Thinking method to be genius วิธีคิดอย่างคนเก่ง
7 Thinking method to be genius วิธีคิดอย่างคนเก่ง

เปิดอ่าน 11,595 ครั้ง
ประวัติการผลิตเบียร์
ประวัติการผลิตเบียร์

เปิดอ่าน 16,552 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2558 ชื่อ "รากษสเทวี"
นางสงกรานต์ปี 2558 ชื่อ "รากษสเทวี"

เปิดอ่าน 12,862 ครั้ง
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด

เปิดอ่าน 139,570 ครั้ง
ครูไทย 4.0 (จบ) : โดย ดิเรก พรสีมา
ครูไทย 4.0 (จบ) : โดย ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 80,992 ครั้ง
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย

เปิดอ่าน 1,601 ครั้ง
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023

เปิดอ่าน 14,054 ครั้ง
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน

เปิดอ่าน 13,477 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1

เปิดอ่าน 14,227 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?
ตูนส์ศึกษา : ปรัชญาการศึกษาไทยในปัจจุบันคือ?

เปิดอ่าน 68,534 ครั้ง
เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 10,029 ครั้ง
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
วิธีแบกเป้ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
เปิดอ่าน 14,284 ครั้ง
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
เปิดอ่าน 14,229 ครั้ง
เปิดตัว "น้องกรณ์" หนูน้อย 1 ขวบ หัวใจใฝ่ธรรมะ ในคลิปดัง "ลูกศิษย์วัดตัวน้อยนั่งสัปหงก"
เปิดตัว "น้องกรณ์" หนูน้อย 1 ขวบ หัวใจใฝ่ธรรมะ ในคลิปดัง "ลูกศิษย์วัดตัวน้อยนั่งสัปหงก"
เปิดอ่าน 20,174 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ