แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 Travel เรื่อง Modal (must, have to, had to) เวลา 1 คาบรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ 23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ครูผู้สอน นางสาวรสสุคนธ์ สิงห์เสนา ใช้สอนระหว่างวันที่ 20 ก.ค. 63 - 25 ก.ค. 63
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทยและนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ม 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
นักเรียนสามารถอธิบายความแตกต่างของการใช้ must, have to, had to ได้
3. สาระสำคัญ
การเรียนรู้กริยาช่วย หรือ Modal Auxiliaries เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประโยคที่พูดหรือเขียนนั้น สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. สาระการเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
Using: Talking about duties and rules
Structure: Modal Auxiliaries: Must/ Have to/ Had to
Vocabulary: embarrass, hilarious, trouble, awful, throw, obey, keep, chew, stay, shout
4.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process)
4.2.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการเปรียบเทียบ
2) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
4.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์(Attitude)(เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้)
 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  5. อยู่อย่างพอเพียง
 2. ซื่อสัตย์สุจริต  6. มุ่งมั่นในการทำงาน
 3. มีวินัย  7. รักความเป็นไทย
 4. ใฝ่เรียนรู้  8. มีจิตสาธารณะ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้)
 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
 5.2 ความสามารถในการคิด
 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน
ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3R 8C 2L)
 R1-Reading (อ่านออก)  R2-(W)Riting (เขียนได้)  R3-(A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)
 C-1 Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้
 C-2 Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม
 C-3 Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและกระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม
 C-4 Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นำ
 C-5 Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่าทันสื่อ
 C-6 Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี
 C-7 Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้
 C-8 Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย
 L-1 Learning (ทักษะการเรียนรู้)  L-2 Leadership (ทักษะความเป็นผู้นำ)
7. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
 บูรณาการหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล (World Class Standard School)
 IS 1 การศึกษาค้นคว้าสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation)
 IS 2 การสื่อสารและการนำเสนอ (Communication and Presentation)
 IS 3 การนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity)
 บูรณาการกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 บูรณาการกับประชาคมอาเซียน
 บูรณาการกับค่านิยม 12 ประการ
 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม
 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
 รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
 มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน
 เข้าใจ เรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
 มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จัดอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกิน พอใช้ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่ายและพร้อมที่จะขยายกิจการเมื่อมีความพร้อมเมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี
 มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา
 คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
 บูรณาการโรงเรียนวิถีพุทธ
 บูรณาการข้ามกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ระบุ)......................................................................................
 อื่นๆ (ระบุ)......................................................................................................................................
8. ชิ้นงาน/ภาระงาน
8.1 แบบฝึกหัดในใบงาน เรื่อง Must/ Have to/ Had to
8.2 แผนผังความคิด (Mind Mapping) สรุปการใช้ Must/ Have to/ Had to
9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
Warm Up
9.1 ครูทักทายนักเรียนแล้วพูดว่า You must be quiet. และ You have to be quiet. พร้อมทำท่าประกอบ. จากนั้นเขียนประโยคทั้งสองไว้บนกระดาน.
9.2 ครูแจกใบความรู้และใบงานเรื่อง Must/ Have to/ Had to ให้นักเรียนทุกคนทำความเข้าใจถึงเรื่องที่จะได้เรียนในวันนี้ พร้อมทั้งนำเสนอคำว่า Must/ Have to/ Had to บนกระดานแล้วอ่านคำศัพท์พร้อมกัน (R1-Reading)
Presentation
9.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้เรียบร้อยแล้ว ครูสุ่มถามคำถามเพื่อทบทวนความเข้าใจดังต่อไปนี้
- What are Must/ Have to/ Had to? : Modal Auxiliary Verb
- What are Must/ Have to/ Had to mean? : แปลว่า ต้อง หรือ จำเป็นต้อง
- How to use Must/ Have to/ Had to? : ตอบเป็นภาษาไทยได้
- Give some example of sentences using Must/ Have to/ Had to.:
.. เป็นต้น
นักเรียนช่วยกันตอบคำถามหรืออธิบายเป็นภาษาของตนเอง ครูให้รางวัล (คำถามละ 1 คะแนน) (C-1)
Practice
9.4 ครูนำเสนอสไลด์แล้วอธิบายเพิ่มเติม ว่า การใช้ must ใช้กับกฎระเบียบหรือกฎหมาย ใช้เป็นคำเชิญแบบสุภาพ ใช้กับสิ่งที่ต้องทำเป็นส่วนตัว พร้อมยกตัวอย่าง ประโยคบอดเล่าและปฏิเสธ ส่วน Have to ใช้กับสิ่งที่สังคม สถาบัน หรือบุคคลอื่นต้องการให้ทำ พร้อมยกตัวอย่าง หลังจากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมว่าในภาษาพูดที่ใช้เป็นทางการ ทั้ง must และ have to ไม่มีความแตกต่างกัน มีความหมายว่า จำเป็นต้องทำ เหมือนกัน พร้อมกับนักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกคนซักถามข้อสงสัยได้ตลอดเวลา (C-3)
9.5 นักเรียนยกตัวอย่างประโยค must และhave toที่อยู่ในสถานการณ์ที่ต่างกันอย่างน้อย 5 คน(C-3)
9.6 นักเรียนทำแบบฝึกหัดในใบงาน เรื่อง Must/ Have to/ Had to (R2-(W)Riting)
9.7 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงาน เรื่อง Must/ Have to/ Had to (C-4)
Production
9.8 นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อที่ 7 หน้า 15 ในหนังสือเรียน Your Space โดยเขียนคนละ 2 ประโยคที่
เกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียนหรือครอบครัวนักเรียนจำเป็นต้องทำ (R2-(W)Riting)
Wrap Up
9.9 นักเรียนซักถามเพิ่มเติมและพูดคุยเพื่อร่วมกันสรุปบทเรียน (C-5)
9.10 นักเรียนสร้างแผนผังความคิด (Mind Mapping) สรุปการใช้ Must/ Have to/ Had to
(R2-(W)Riting) ,(C-2)
10. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
10.1 หนังสือเรียนวิชาภาษาอังกฤษ Your Space 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (แบบฝึกหัดข้อที่ 7 หน้า 15)
10.2 ใบความรู้และใบงาน เรื่อง Must/ Have to/ Had to
10.3 Power Point นำเสนอเพื่อประกอบการสอน เรื่อง Must/ Have to/ Had to
11. การวัดผลประเมินผล
จุดประสงค์
การเรียนรู้ วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
นักเรียนสามารถอธิบายความแตกต่างของการใช้ must, have to, had to ได้
-ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือ หน้า 15 และใบงาน เรื่อง Must/ Have to/ Had to
-นักเรียนสร้างแผนผังความคิด (Mind Mapping) สรุปการใช้ Must/ Have to/ Had to -แบบฝึกหัดข้อที่ 7 ในหนังสือหน้า 15
-ใบงานเรื่อง Must/ Have to/ Had to
-ความถูกต้องของคำตอบที่ทำในแบบฝึกหัดร้อยละ 80
-รายละเอียดครบถ้วนคิดเป็นร้อยละ 90
บันทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/
..
ใช้สอนวันที่
เดือน
.. พ.ศ.
เวลา
ด้านความรู้ (K)
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ด้านคุณลักษณะ (A)
ปัญหาและอุปสรรค
ลงชื่อ .....................................
(นางสาวรสสุคนธ์ สิงห์เสนา)
ตำแหน่งครู
วันที่ ....เดือน ..................... พ.ศ. .........