ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะ

กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาป+ที่ 3

ชื่อผู้ วิจัย สุชะฎา โสพลพันธุ์

สถานที่ โรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล3าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการด้านการจัดการ

เรียนรู้ เพื่อเสริมสร!างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2) เพื่อสร!างและพัฒนารูปแบบการสอน

EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อ

เสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1โรงเรียนเทศบาล ๓ (ตลาดล่าง) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จํานวน25 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) โดยมีห!องเรียนเป็นหน่วยสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จํานวน 7 ชุด และแผนการจัดการเรียนรู้ จํานวน 16 แผน ชั่วโมงสอน 16 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จํานวน 45 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) เท่ากับ 0.82 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอน EKACE มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.90 วิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และและสถิติเปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีความเป็นอิสระต3อกัน (t- test Dependent Samples) ผลการวิจัย พบว่า

ตอนที่ 1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้าง

ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ พบว่า สภาพปัจจุบัน ครูจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในภาพรวมอยู3ในระดับปานกลาง (x =2.74 S.D. = 0.17) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านครูผู้สอน ครูมีการจัดการเรียนรู!เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์อยู3ในระดับน้อย (x =2.39 S.D. = 0.24) ส่วนด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร& พบว3า อยู3ในระดับปานกลาง

(x =2.88 S.D. = 0.22) ความต้องการด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.62 S.D. = 0.15) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านครูผู้สอนมีความต้องการอยู่ในระดับมากที่สุด (x =4.63 S.D. = 0.26) ส่วนด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ พบว่า มีความต้องการอยู่ในระดับมากที่สุด (x = 4.62 S.D. = 0.23) นอกจากนี้ ครูผู้สอนมีความคิดเห็นว่า ควรจัดหลักสูตรพัฒนาเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร!างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ การจัดทําแผนการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพื่อนําไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของผู!เรียนให้มีประสิทธิภาพต่อไป ตอนที่ 2 รูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.12/81.07

ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กําหนด 80/80 ตอนที่ 3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7443 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.7443 หรือคิดเป็นร้อยละ 74.43 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 0.70 ที่ตั้งไว้ ตอนที่ 4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอน EKACE เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x = 4.55 S.D. = 0.29) เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายด้าน พบว่า ด้านประโยชน์ของรูปแบบการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (x = 4.60 S.D. = 0.37) รองลงมา คือ ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน (x = 4.58 S.D. = 0.34) และน้อยที่สุด คือ ด้านวัดและประเมินผล (x = 4.47 S.D. = 0.42)

โพสต์โดย เก๋ : [24 ส.ค. 2563 เวลา 06:03 น.]
อ่าน [3876] ไอพี : 182.232.219.101
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,765 ครั้ง
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ

เปิดอ่าน 7,332 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?

เปิดอ่าน 12,382 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ

เปิดอ่าน 19,525 ครั้ง
รายงานการวิจัย สถานภาพการประยุกต์ใช้ ICT เพื่อการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรองรับการปฏิรูปการศึกษ
รายงานการวิจัย สถานภาพการประยุกต์ใช้ ICT เพื่อการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรองรับการปฏิรูปการศึกษ

เปิดอ่าน 34,085 ครั้ง
ความเป็นมาของพระไตรปิฎก
ความเป็นมาของพระไตรปิฎก

เปิดอ่าน 59,875 ครั้ง
พืชที่ใช้เป็นอาหาร
พืชที่ใช้เป็นอาหาร

เปิดอ่าน 112,341 ครั้ง
LMS คืออะไร
LMS คืออะไร

เปิดอ่าน 12,330 ครั้ง
ถอดรหัส “วิทยาการคำนวณ” วิชาแห่งโลกอนาคตที่ครูวันนี้ก็ไม่เคยได้เรียน!
ถอดรหัส “วิทยาการคำนวณ” วิชาแห่งโลกอนาคตที่ครูวันนี้ก็ไม่เคยได้เรียน!

เปิดอ่าน 27,500 ครั้ง
ที่มาภาพมือเป็นรู ที่แชร์กันให้กลัวกันทั่วไลน์ ที่แท้มาจาก....
ที่มาภาพมือเป็นรู ที่แชร์กันให้กลัวกันทั่วไลน์ ที่แท้มาจาก....

เปิดอ่าน 14,072 ครั้ง
ฮาร์วาร์ด : สุดยอดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก
ฮาร์วาร์ด : สุดยอดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก

เปิดอ่าน 15,815 ครั้ง
เสมาการ์ตูน
เสมาการ์ตูน

เปิดอ่าน 14,438 ครั้ง
10 เคล็ดลับ ลดน้ำตาล ลดโรค ลดอ้วน
10 เคล็ดลับ ลดน้ำตาล ลดโรค ลดอ้วน

เปิดอ่าน 2,519 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก
ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก

เปิดอ่าน 13,288 ครั้ง
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย

เปิดอ่าน 9,959 ครั้ง
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข
ขับเคลื่อนการศึกษาไทยอย่างไร จึงถูกใจประชาชน โดย ดร.ดำรงค์ ชลสุข

เปิดอ่าน 11,831 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
เปิดอ่าน 20,803 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา เรียนรู้จากผู้ประสบผลสำเร็จ : "เกาหลีใต้"
ปฏิรูปการศึกษา เรียนรู้จากผู้ประสบผลสำเร็จ : "เกาหลีใต้"
เปิดอ่าน 10,967 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก
เปิดอ่าน 25,053 ครั้ง
ไมยราบไร้หนาม
ไมยราบไร้หนาม
เปิดอ่าน 37,567 ครั้ง
Adjectives (Articles - the )
Adjectives (Articles - the )

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ