ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่ สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรี

ชื่อเรื่อง การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่

สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางอรวรรณ ประเกาทัน

สถานศึกษา โรงเรียนนาข่าวิทยาคม อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อประเมินผลการใช้โปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูคณิตศาสตร์ที่มีต่อโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ โดยผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยเป็น 3 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 สร้างและพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนนาข่าวิทยาคม จำนวน 5 คน กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา และรองผู้บริหารฝ่ายวิชาการ จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์สภาพปัจจุบันและแนวทางในการเสริม สร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ 2) โปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ และ 3) แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ของโปรแกรมฯ ระยะที่ 2 การประเมินผลการใช้โปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนนาข่าวิทยาคม จำนวน 26 คน ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) โปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ 2) แบบวัดทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 3) แบบวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์

4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมการฝึกอบรม ระยะที่ 3 ศึกษาความคิดเห็นของครูคณิตศาสตร์ที่มีต่อโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลคือ ครูผู้สอนกลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ

ผลการวิจัยพบว่า

1. การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 มีผลการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิโดยรวมมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก โปรแกรมมีองค์ประกอบสำคัญคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สื่อ วัสดุอุปกรณ์ และการประเมินผล โปรแกรมมีเนื้อหามุ่งให้ความรู้ความเข้าใจความหมาย ความสำคัญ แนวคิดและทฤษฎีของการส่งเสริมทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ และฝึกปฏิบัติด้วยกิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ วิธีการพัฒนาคือ การฝึกอบรมและ การเรียนรู้ด้วยตนเอง การวัดและประเมินผลโดยการประเมินทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ และการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโปรแกรมฯ

2. ผลการใช้โปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 สรุปได้ดังนี้

2.1 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมด้วยโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ มีคะแนนทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับมาก

2.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมด้วยโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ มีคะแนนแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ อยู่ในระดับมาก

2.3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมด้วยโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจต่อการฝึกอบรม อยู่ในระดับมาก

3. ครูผู้สอนมีความคิดเห็นต่อโปรแกรมเสริมสร้างทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมโครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ โดยรวมและเป็นรายด้านอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ติ๋ม : [23 ส.ค. 2563 เวลา 09:24 น.]
อ่าน [5066] ไอพี : 110.78.181.206
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,561 ครั้ง
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 17,715 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?

เปิดอ่าน 46,972 ครั้ง
คำนาม
คำนาม

เปิดอ่าน 31,421 ครั้ง
ลายมือผู้ยิ่งใหญ่
ลายมือผู้ยิ่งใหญ่

เปิดอ่าน 13,868 ครั้ง
เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก
เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก

เปิดอ่าน 11,836 ครั้ง
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2

เปิดอ่าน 11,384 ครั้ง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง

เปิดอ่าน 10,311 ครั้ง
มาแล้ว! เอ็มวี ซิงเกิ้ล "Gentleman" ของ "ไซ (PSY)"
มาแล้ว! เอ็มวี ซิงเกิ้ล "Gentleman" ของ "ไซ (PSY)"

เปิดอ่าน 56,708 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)

เปิดอ่าน 22,118 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ

เปิดอ่าน 23,733 ครั้ง
มอบอำนาจให้ รอง กพฐ.ทำสัญญาการผ่อนชำระหนี้ รับสภาพหนี้ การดำเนินคดีฯ
มอบอำนาจให้ รอง กพฐ.ทำสัญญาการผ่อนชำระหนี้ รับสภาพหนี้ การดำเนินคดีฯ

เปิดอ่าน 14,914 ครั้ง
"ข้าวกล้องงอก" ช่วยให้อารมณ์ดี
"ข้าวกล้องงอก" ช่วยให้อารมณ์ดี

เปิดอ่าน 27,525 ครั้ง
พระกฤษณะ
พระกฤษณะ

เปิดอ่าน 13,449 ครั้ง
โรคเอ็มเอส โรคร้ายของหนุ่มสาว
โรคเอ็มเอส โรคร้ายของหนุ่มสาว

เปิดอ่าน 25,204 ครั้ง
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์
ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์

เปิดอ่าน 14,953 ครั้ง
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน
เปิดอ่าน 17,976 ครั้ง
เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 6 ใช้ google เพื่อช่วยยกระดับภาษาอังกฤษ
เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 6 ใช้ google เพื่อช่วยยกระดับภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 8,695 ครั้ง
"กูเกิ้ล"ผุดนวัตกรรม แว่นเสมือนจริง-รถอัตโนมัติ!
"กูเกิ้ล"ผุดนวัตกรรม แว่นเสมือนจริง-รถอัตโนมัติ!
เปิดอ่าน 12,870 ครั้ง
ปัญหาของชาวโซเชียล เฟซบุ๊กกับภาวะซึมเศร้า
ปัญหาของชาวโซเชียล เฟซบุ๊กกับภาวะซึมเศร้า
เปิดอ่าน 428,762 ครั้ง
หมดยุค"ปริญญาแปะฝาบ้าน"!! "ทักษะอาชีพ-ชีวิต"สำคัญกว่า?
หมดยุค"ปริญญาแปะฝาบ้าน"!! "ทักษะอาชีพ-ชีวิต"สำคัญกว่า?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ