ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนา
ทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย
ผู้วิจัย นางสาวอัมพรพรรณ โจมภาค
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านปราสาท ตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน
สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบ
การจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาและหาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม ด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย 3) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมินทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปัน ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมสำหรับเด็กปฐมวัย 4) ศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย 5) ศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย เป็นการวิจัยและพัฒนา มีรูปแบบการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย . ผู้ปกครองนักเรียน ในโรงเรียนบ้านปราสาท สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ศรีสะเกษ ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 27 คน เด็กปฐมวัย ที่กำลังศึกษาในโรงเรียนบ้านปราสาท สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 27 คน ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจงและสอดคล้องกับผู้ปกครอง ผู้บริหารและครูผู้สอนระดับปฐมวัย สังกัดโรงเรียนบ้านปราสาท สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 2 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยคู่มือการจัดกิจกรรมตามรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย แบบสอบถามผู้ปกครอง แบบสัมภาษณ์ผู้บริหารและครูผู้สอนระดับปฐมวัย แบบทดสอบเพื่อประเมินทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปัน และแบบสอบถามความพึงพอใจของครูและผู้ปกครองในการใช้รูปแบบ
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 97.56/95.74 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ .9125 หมายความว่า เด็กปฐมวัยโรงเรียนบ้านปราสาท หลังการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย มีทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือและการแบ่งปันเพิ่มขึ้นร้อยละ 91.25
3. ผลการเปรียบเทียบการประเมินทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปัน ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมสำหรับเด็กปฐมวัยพบว่า ภายหลังการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัย นักเรียนมีคะแนนทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือและการแบ่งปันสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ครูผู้สอนมีระดับความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.86, =0.20)
5. ผู้ปกครองมีระดับความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมด้านการช่วยเหลือ และการแบ่งปันสำหรับเด็กปฐมวัย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =2.75 , S.D.=0.25)