ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดังนี้ 3.1) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนนมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) ศึกษาพัฒนาการความสามารถในการทำงานเป็นทีม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม 3.3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อประเมินและรับรองรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 4) แบบประเมินการทำงานเป็นทีม 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 6) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และทดสอบสมมุติฐานด้วยสถิติ t-test (Dependent Sample)

จากผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความต้องการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม โดยรวมอยู่ในระดับน้อย (x̄ = 2.29, S.D. = 0.63) และความต้องการในการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.55)

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มี 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล และ 5) เงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้ โดยมีกระบวนการจัดการเรียนรู้เป็น 7 ขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 การกำหนดประเด็นปัญหาร่วมกัน ขั้นที่ 3 ขั้นการวางแผนสืบค้นและสร้างข้อตกลงร่วมกัน ขั้นที่ 4 ขั้นร่วมมือกันรวบรวมข้อมูลและแก้ปัญหา ขั้นที่ 5 การนำเสนอและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ขั้นที่ 6 การนำไปปฏิบัติ และขั้นที่ 7 การประเมินผล โดยมีผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.58, S.D. = 0.50) และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 80.94/80.83

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า 3.1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม มีความสามารถในการแก้ปัญหา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

3.2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม มีพัฒนาการในการทำงานเป็นทีมสูงขึ้นทุกช่วง 3.3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า 4.1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.54, S.D. = 0.56) 4.2) ผู้เชี่ยวชาญประเมินรับรองรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมกันและแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.65, S.D. = 0.48)

โพสต์โดย นิวัต : [23 ส.ค. 2563 เวลา 07:39 น.]
อ่าน [4870] ไอพี : 223.205.220.26
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,521 ครั้ง
กระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม แบบไหนปลอดภัยมากที่สุด ?
กระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม แบบไหนปลอดภัยมากที่สุด ?

เปิดอ่าน 85,295 ครั้ง
ประชาธิปไตย คืออะไร
ประชาธิปไตย คืออะไร

เปิดอ่าน 18,244 ครั้ง
ชมคลิปฮ็อต เปิดใจ "น้องมันตรา-พริตตี้สาว" คู่กรณีวลีเด็ด "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม.-ไม่ช็อต!"
ชมคลิปฮ็อต เปิดใจ "น้องมันตรา-พริตตี้สาว" คู่กรณีวลีเด็ด "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม.-ไม่ช็อต!"

เปิดอ่าน 19,084 ครั้ง
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย

เปิดอ่าน 29,506 ครั้ง
สุนัขพันธ์บางแก้ว
สุนัขพันธ์บางแก้ว

เปิดอ่าน 10,347 ครั้ง
พืชผักสวนครัว
พืชผักสวนครัว

เปิดอ่าน 33,449 ครั้ง
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?

เปิดอ่าน 10,799 ครั้ง
จุดกำเนิดของ Google.com
จุดกำเนิดของ Google.com

เปิดอ่าน 46,809 ครั้ง
ศีล-สมาธิ-ปัญญา...คืออะไร
ศีล-สมาธิ-ปัญญา...คืออะไร

เปิดอ่าน 19,282 ครั้ง
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์
"ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู" โดย อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์

เปิดอ่าน 10,626 ครั้ง
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ
5 วิธีในการตกลงเจรจาในภาษาอังกฤษให้เป็นผลสำเร็จ

เปิดอ่าน 12,613 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า

เปิดอ่าน 26,887 ครั้ง
Youtube เผย 10 อันดับคลิปที่มีผู้เข้าชมมากสุดปี 2011
Youtube เผย 10 อันดับคลิปที่มีผู้เข้าชมมากสุดปี 2011

เปิดอ่าน 28,389 ครั้ง
เป็ดบาบารี่
เป็ดบาบารี่

เปิดอ่าน 19,690 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 38,044 ครั้ง
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
เปิดอ่าน 4,031 ครั้ง
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
เปิดอ่าน 31,323 ครั้ง
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
เปิดอ่าน 3,984 ครั้ง
ผัก ผลไม้… กับมะเร็ง
ผัก ผลไม้… กับมะเร็ง
เปิดอ่าน 1,586 ครั้ง
วัยผู้ใหญ่ ควรนอนเท่าไรให้พอเหมาะ
วัยผู้ใหญ่ ควรนอนเท่าไรให้พอเหมาะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ