ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะในการคิดแก้ปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเ

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมทักษะในการคิดแก้ปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ผู้วิจัย นางจริยา ศุภผล

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

สังกัด โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) อำเภอ เมือง จังหวัด นครราชสีมา

สังกัดเทศบาลนครนครราชสีมา

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับศึกษาข้อมูลพื้นฐานได้แก่ (1) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (2) มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (3) เอกสารเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี หลักการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ (4) รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 39 คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) (5) ครูผู้สอนกิจกรรมการเรียนรู้ และผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 รวมจำนวน 10 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ (1) ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ในการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) (2) นักเรียนที่ใช้ในการทดสอบหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินความพึงพอใจ ที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 42 ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คู่มือการใช้รูปแบบ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดทักษะชีวิต แบบประเมินทักษะการทำงานกลุ่ม และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พบว่ากิจกรรมการเรียนรู้มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการเรียนรู้ เนื่องจากกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดนักเรียนมีความต้องการรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการส่งเสริมทักษะชีวิตและทักษะการทำงานกลุ่มโดยการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ

2. การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เรียกว่า “PI2C Model” ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดกิจกรรม การวัดและประเมินผล และ เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบการจัดกิจกรรมไปใช้ ซึ่งมีขั้นตอนการจัดกิจกรรม 4 ขั้นตอนดังนี้ (1) ขั้นเตรียม (Preparation: P) (2) ขั้นสอน (Instruction: I) (3) ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ (Check and Evaluation: C) และ (4) ขั้นสรุปและประเมินผล (Conclusion and Evaluation: C) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.93 , S.D. = 0.11) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.03/83.49

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า (1) ทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) ทักษะการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยรวมอยู่ในระดับการปฏิบัติมาก ( = 2.58, S.D. = 0.13)

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงคำนวณและปัญหา รายวิชา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 (บูรพาวิทยากร) เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59, S.D. = 0.66)

โพสต์โดย any : [21 ส.ค. 2563 เวลา 08:32 น.]
อ่าน [3254] ไอพี : 1.1.225.112
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,830 ครั้ง
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ

เปิดอ่าน 1,228 ครั้ง
ความหวาน มีประโยชน์หรือโทษขึ้นอยู่กับปริมาณ
ความหวาน มีประโยชน์หรือโทษขึ้นอยู่กับปริมาณ

เปิดอ่าน 60,208 ครั้ง
ตารางธาตุ
ตารางธาตุ

เปิดอ่าน 12,132 ครั้ง
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ

เปิดอ่าน 970 ครั้ง
มาตรฐาน Image Metadata
มาตรฐาน Image Metadata

เปิดอ่าน 12,269 ครั้ง
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ

เปิดอ่าน 41,670 ครั้ง
เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 26,670 ครั้ง
พระคาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )
พระคาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )

เปิดอ่าน 36,349 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 7 ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที่ 3
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 7 ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที่ 3

เปิดอ่าน 10,656 ครั้ง
รู้จัก โรคเอสแอลอี
รู้จัก โรคเอสแอลอี

เปิดอ่าน 33,760 ครั้ง
Plasma TV คืออะไร
Plasma TV คืออะไร

เปิดอ่าน 17,558 ครั้ง
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป

เปิดอ่าน 17,294 ครั้ง
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท

เปิดอ่าน 4,455 ครั้ง
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 11,896 ครั้ง
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563

เปิดอ่าน 10,960 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
เปิดอ่าน 28,079 ครั้ง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
เปิดอ่าน 23,258 ครั้ง
แบบก่อสร้างอาคารห้องสุมด ICT
แบบก่อสร้างอาคารห้องสุมด ICT
เปิดอ่าน 10,291 ครั้ง
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
เปิดอ่าน 19,617 ครั้ง
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ