ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้สู่ การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเทศบาล บ

เรื่อง รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้สู่

การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเทศบาล

บ้านสักงอยปีการศึกษา 2561

ผู้ศึกษา ลือชา คงรุ่ง

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การศึกษารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัด การเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเทศบาลบ้านสักงอย ปีการศึกษา 2561 มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเทศบาล บ้านสักงอย ปีการศึกษา 2561 เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชากร ในปีการศึกษา 2561 โดยวิธีคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยแยกเป็นกลุ่มเป้าหมาย คือ ครู จานวน 21 คน ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 (ตัวแทนชุมชน) จานวน 70 คน คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน จานวน 9 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 จานวน 70 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ในการเก็บรวบรวมข้อมูลสาหรับการวิจัย เป็นแบบสอบถาม (Questionnaires) ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของครูต่อสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สรุปผลการวิจัย

1. การศึกษารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูในการ

จัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเทศบาลบ้าน

สักงอย ปีการศึกษา 2561 พบว่า รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะครู

ในการจัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมอยู่

ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.65 S.D. = 0.45) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด

ทุกด้านเรียงลาดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านการกระจายอานาจ โดยรวมอยู่

ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.71 S.D. = 0.45) 2) ด้านการบริหารตนเอง โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

( x̄ = 4.71 S.D. = 0.45) 3) ด้านการมีส่วนร่วม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.62 S.D. =

0.46) และ 4) ด้านการตรวจสอบและถ่วงดุล โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด( x̄ = 4.57 S.D. = 0.45)

เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1

2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ สู่การยกระดับ

คุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า ความคิดเห็นระดับปฏิบัติงานของครูต่อ

สมรรถนะในการจัดการเรียนรู้สู่การยกระดับคุณภาพผู้ตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวม

อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( x̄) ก่อนการวิจัย เท่ากับ 3.49 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

เท่ากับ 0.47 และมีค่าเฉลี่ย ( x̄ ) หลังการวิจัย เท่ากับ 4.69 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

เท่ากับ 0.39 เมื่อพิจารณาเป็นด้านของความเห็นของครูต่อสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้สู่การ

ยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานก่อนและหลังการวิจัย พบว่า หลังการวิจัย

สูงกว่าก่อนการวิจัย และเมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ สู่การ

ยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระหว่างก่อนและหลังการวิจัย โดยใช้ t- test พบว่า ความคิดเห็นของครูต่อสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ สู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 2

3. การศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและ

ผู้ปกครอง ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับความพึง

พอใจมากที่สุด เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 3 และเมื่อศึกษาความพึงพอใจจากประชากรกลุ่มเป้าหมายแยก เป็นรายกลุ่ม ดังนี้

3.1 ระดับความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษา

ขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄ ) เท่ากับ 4.42 คิดเป็นร้อยละ 88.4 และเมื่อ

วิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน

3.2 ระดับความพึงพอใจของครู ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้น

พื้นฐาน อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( x̄ ) เท่ากับ 4.74 คิดเป็นร้อยละ 94.8 และเมื่อ

วิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า ครูมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน

3.3 ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐาน

การศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( x̄) เท่ากับ 4.63 คิดเป็นร้อยละ 92.6

และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า ผู้ปกครองมีความพึงพอใจในระดับที่มากที่สุด

ในทุกด้าน

3.4 ระดับความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( x̄ ) เท่ากับ 4.66

คิดเป็นร้อยละ 93.2 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษา

ขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน

โพสต์โดย ลือชา : [17 ส.ค. 2563 เวลา 09:52 น.]
อ่าน [3397] ไอพี : 1.2.243.39
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,487 ครั้ง
อย่ากวดวิชาอย่างเดียว
อย่ากวดวิชาอย่างเดียว

เปิดอ่าน 15,176 ครั้ง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง

เปิดอ่าน 126,607 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 1 สนามแข่งขัน (The Pitch)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 1 สนามแข่งขัน (The Pitch)

เปิดอ่าน 107,537 ครั้ง
ความเชื่อของชาวอีสาน
ความเชื่อของชาวอีสาน

เปิดอ่าน 10,157 ครั้ง
จำกันได้ไหม? "คลิปฝรั่งเกลียดเมืองไทย" ล่าสุดได้รางวัลโฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวยอดเยี่ยม!!
จำกันได้ไหม? "คลิปฝรั่งเกลียดเมืองไทย" ล่าสุดได้รางวัลโฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวยอดเยี่ยม!!

เปิดอ่าน 10,906 ครั้ง
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad
เผยโฉมอินเตอร์เฟซของ Google Pad

เปิดอ่าน 11,208 ครั้ง
ปลุกเด็กเขียนจดหมาย ลดใช้ facebook
ปลุกเด็กเขียนจดหมาย ลดใช้ facebook

เปิดอ่าน 20,192 ครั้ง
17 ประโยคที่ผู้นำมักพูดทุกวัน
17 ประโยคที่ผู้นำมักพูดทุกวัน

เปิดอ่าน 9,078 ครั้ง
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ
กังนัมสไตล์เริ่ด ฮิตยันไฮโซอังกฤษ เด็กอีตันยังเลียนแบบ

เปิดอ่าน 52,699 ครั้ง
ธรรมชาติของห่วงโซ่อาหาร
ธรรมชาติของห่วงโซ่อาหาร

เปิดอ่าน 17,484 ครั้ง
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?

เปิดอ่าน 26,261 ครั้ง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง

เปิดอ่าน 10,384 ครั้ง
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก

เปิดอ่าน 15,723 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

เปิดอ่าน 64,146 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69

เปิดอ่าน 11,325 ครั้ง
ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
เปิดอ่าน 10,600 ครั้ง
"ครูยงยุทธ"พูดชัดๆ การศึกษาไทย แพ้เขมร แพ้ลาว ผมไม่เชื่อ (ไปฟังและดูคลิป)
"ครูยงยุทธ"พูดชัดๆ การศึกษาไทย แพ้เขมร แพ้ลาว ผมไม่เชื่อ (ไปฟังและดูคลิป)
เปิดอ่าน 24,839 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'
เปิดอ่าน 17,742 ครั้ง
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ
อาหารต้องเลี่ยง ภาชนะต้องห้าม อย่านำเข้าไมโครเวฟ
เปิดอ่าน 7,749 ครั้ง
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ