ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่

3

ผู้วิจัย ยุพิน ก้องเวหา

ปีที่วิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ

การคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3)ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ขององค์ประกอบรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระยะที่ 2 การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 19 คน ซึ่งกำลังเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนดอนเงินพิทยาคาร อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 แผน ใช้เวลา

ในการสอน 16 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนซึ่งเป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ทำหน้าที่ตรวจประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วย

4 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ แนวคิด และทฤษฎี ของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน

6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตรวจสอบและทบทวนความรู้เดิม ขั้นเร้าความสนใจ ขั้นสำรวจค้นหา และแสวงหาความรู้ ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป ขั้นประเมินผล ขั้นนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ และ 4) ผลที่ผู้เรียนจะได้รับจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ ผลการประเมินขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านความเหมาะสม ผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านความเป็นไปได้ ผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2.1 การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ

การคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.88/83.86

2.2 การวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ

การคิดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7416 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 74.16

2.3 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและ

หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน 13.90 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 46.32

2.4 การวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ที่จัดกิจกรรมการ

เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้

ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า โดยรวม

ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ยุพิน ก้องเวหา : [15 ส.ค. 2563 เวลา 16:27 น.]
อ่าน [67796] ไอพี : 1.20.243.138
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 98,967 ครั้ง
การปฐมพยาบาลแผลถูกแมงป่องต่อย ตะขาบหรือแมงมุมกัด
การปฐมพยาบาลแผลถูกแมงป่องต่อย ตะขาบหรือแมงมุมกัด

เปิดอ่าน 107 ครั้ง
3 เคล็ดลับเลือกของที่ระลึกพรีเมียม ให้สร้างความประทับใจ
3 เคล็ดลับเลือกของที่ระลึกพรีเมียม ให้สร้างความประทับใจ

เปิดอ่าน 10,512 ครั้ง
คำรำพึง ของคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
คำรำพึง ของคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 2,063 ครั้ง
ต้นไม้สำหรับวางบนโต๊ะทำงาน ช่วยให้สดชื่นและมีพลังในการทำงาน
ต้นไม้สำหรับวางบนโต๊ะทำงาน ช่วยให้สดชื่นและมีพลังในการทำงาน

เปิดอ่าน 21,992 ครั้ง
กินรสจืด ยืดชีวิต
กินรสจืด ยืดชีวิต

เปิดอ่าน 4,424 ครั้ง
3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย
3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย

เปิดอ่าน 13,688 ครั้ง
วันแม่แห่งชาติกับ คำสอนของแม่
วันแม่แห่งชาติกับ คำสอนของแม่

เปิดอ่าน 1,443 ครั้ง
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง

เปิดอ่าน 10,273 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม

เปิดอ่าน 10,915 ครั้ง
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ

เปิดอ่าน 14,795 ครั้ง
มัลติมีเดีย ที่มาของการขยายเทคโนโลยีเครือข่าย
มัลติมีเดีย ที่มาของการขยายเทคโนโลยีเครือข่าย

เปิดอ่าน 9,521 ครั้ง
ฟีฟ่า จับมือ กูเกิล เปิดเว็บเอาใจคอบอล
ฟีฟ่า จับมือ กูเกิล เปิดเว็บเอาใจคอบอล

เปิดอ่าน 14,240 ครั้ง
"เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่
"เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่

เปิดอ่าน 20,901 ครั้ง
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 20,687 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 1

เปิดอ่าน 23,073 ครั้ง
ฝนดาวตกสิงโต
ฝนดาวตกสิงโต
เปิดอ่าน 1,337 ครั้ง
เปิดร้านขายอะไรดีในปี 2025 รวมไอเดียธุรกิจมาแรง กำไรดี
เปิดร้านขายอะไรดีในปี 2025 รวมไอเดียธุรกิจมาแรง กำไรดี
เปิดอ่าน 2,233 ครั้ง
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
เปิดอ่าน 54,720 ครั้ง
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
สรุปสูตรการเลื่อนแกนทางขนาน
เปิดอ่าน 805 ครั้ง
5 เหตุผลที่ Digital Marketing จำเป็นสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล
5 เหตุผลที่ Digital Marketing จำเป็นสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ