|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC)
ผู้วิจัย นางสาวกุสุมา ดาวประสงค์
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการเกี่ยวกับการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 2) พัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และ 3) ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เป็นการวิจัยแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) และการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูและบุคลากร ผู้ปกครองและนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์ แบบสนทนากลุ่ม แบบสอบถาม และแบบประเมิน สถิติที่ใช้ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการของการดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ พบว่า โรงเรียนยังขาดเป้าหมายในการพัฒนาทักษะการคิดร่วมกัน การจัดทำหลักสูตรขาดการบูรณาการทักษะการคิด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่เน้นทักษะการคิด ครูขาดการกระตุ้นกระบวนการคิดให้กับนักเรียน และการวัดและประเมินผลเน้นความรู้ความเข้าใจมากกว่าการเน้นกระบวนการคิด จากการวิเคราะห์ปัญหาร่วมกัน ประเด็นที่ต้องการพัฒนามากที่สุด คือ ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดและการดำเนินการวัดและประเมินผลที่เน้นทักษะการคิด โดยการใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นฐานในการพัฒนา
2. การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยนำผลจากการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการ การบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมาเป็นกรอบในการร่างรูปแบบ มีองค์ประกอบหลัก คือ 1) การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย วิเคราะห์ปัญหาและกำหนดความต้องการ การสร้างความตระหนักและความคิดริเริ่ม การจัดทำรูปแบบ การปฏิบัติตามและปรับปรุงพัฒนา การนำรูปแบบไปใช้ การติดตามและประเมินผล และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผล 2) องค์ประกอบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด มี 4 องค์ประกอบ ประกอบด้วย การกำหนดเป้าหมายร่วมกันเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด การจัดทำหลักสูตรเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการคิด และการวัดและประเมินเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด 3) องค์ประกอบของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ มี 6 องค์ประกอบ ประกอบด้วย กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกัน ภาวะผู้นำร่วม ทีมร่วมแรงร่วมใจ เรียนรู้ร่วมและพัฒนาวิชาชีพ ชุมชนกัลยาณมิตร และการบริหารจัดการชุมชนที่ดี โดยผ่านผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความถูกต้องและความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบัวงามวิทยา พบว่า 1) ผลการประเมินการดำเนินงานตามองค์ประกอบที่สะท้อนชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพทั้งการประเมินตนเองและบุคคลภายนอก อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการประเมินการดำเนินงานตามองค์ประกอบที่สะท้อนการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด ทั้งการประเมินตนเองและบุคคลภายนอก อยู่ในระดับมาก และ 3) ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและนักเรียนของโรงเรียนบัวงานวิทยา มีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
สรุปผลการวิจัยการพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความถูกต้องและความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด และสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนได้จริง
|
โพสต์โดย ผอ.กุสุมา ดาวประสงค์ : [14 ส.ค. 2563 เวลา 14:42 น.] อ่าน [4872] ไอพี : 27.55.89.231
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 56,079 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,034 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,491 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,414 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,268 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,510 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,291 ครั้ง
| เปิดอ่าน 51,793 ครั้ง
| เปิดอ่าน 64,376 ครั้ง
| เปิดอ่าน 135,135 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,342 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,631 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,689 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,691 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 28,396 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,243 ครั้ง
| เปิดอ่าน 40,509 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,462 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,650 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|