ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง กา

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้วิจัย นางวัชรี ทองหล่อ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนสายธารวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่วิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานความต้องการจำเป็นในการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2)เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3)เพื่อทดลองการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 2 คน ครูผู้สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 คน ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 20 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 75 คน รวม 112 คน ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานความต้องการจำเป็นในการสร้างและการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง(Research : R1) ระยะที่ 2 การสร้างและการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง(Development : D1) ระยะที่ 3 เป็นการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Research : R2) และระยะที่ 4 เป็นการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง(Development : D2) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) แบบประเมินทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t –test แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา(Content analysis)

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1.โดยภาพรวมโรงเรียนสายธารวิทยา มีความพร้อมเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียนในการใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับมาก และความคิดเห็นของนักเรียนโดยภาพรวม มีความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ตามความคิดเห็นของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด

2.ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.65/84.36 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ผลการประเมินทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (x̄ =37.34) ผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีค่าเท่ากับ (x̄=27.45,S.D.=1.50) สูงกว่าก่อนเรียนที่มีค่าเท่ากับ (x̄=19.47,S.D.=0.85) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และผลการศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄= 4.35,S.D.=0.58) มีความเหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ตามข้อมูลพื้นฐานความต้องการจำเป็นของโรงเรียนสายธารวิทยา โดยผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ประยุกต์เอาขั้นตอนการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 5 ขั้นตอน มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด นอกจากนี้ผู้วิจัยได้ทดลองภาคสนาม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนสายธารวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 33 คน พบว่า ประสิทธิภาพของกระบวนการของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (E1)เท่ากับ 86.65 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์(E2)เท่ากับ 84.36 และเมื่อดำเนินการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ชี้ให้เห็นว่ารูปแบบมีความเหมาะสม สามารถนำไปใช้ได้

3. ผลการทดลองการใช้รูปแบบในการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 7 แผนการจัดการเรียนรู้และ 7 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนมีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนด้วยกัน มีกระบวนการกลุ่ม ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดีและมีคะแนนการทดสอบย่อยหลังเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 100 ในทุกชุดกิจกรรมการเรียนรู้

4. ผลการประเมินรูปแบบพิจารณาจากผลต่างคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการประเมินการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฏีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนที่ใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01นอกจากนี้การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองจากการเรียนรู้โดยรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้ง 6 กลุ่ม โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่ม พบว่า มีจำนวน 4 กลุ่ม จาก 6 กลุ่ม ที่มีความเหมาะสมในการสร้างความรู้ด้วยตนเองอยู่ในระดับมากที่สุด โดยกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ กลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 4 ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาเป็นรายชุด พบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 6 นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสมที่สุด และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ รายวิชา งานประดิษฐ์ เรื่อง การแกะสลักผักและผลไม้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย วัชรี ทองหล่อ : [14 ส.ค. 2563 เวลา 02:53 น.]
อ่าน [5325] ไอพี : 49.228.50.94
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,280 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 21,597 ครั้ง
ออมเงิน..คนเงินเดือนน้อย
ออมเงิน..คนเงินเดือนน้อย

เปิดอ่าน 17,048 ครั้ง
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก
จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอีกกี่แห่ง? : รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก

เปิดอ่าน 10,691 ครั้ง
งานหนักมาก เหนื่อย ทำอย่างไรดี
งานหนักมาก เหนื่อย ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 9,978 ครั้ง
ฟังกันหรือยัง? เพลง "ครูเงินกู้" เพลงสะท้อนส่วนหนึ่งของชีวิตครู
ฟังกันหรือยัง? เพลง "ครูเงินกู้" เพลงสะท้อนส่วนหนึ่งของชีวิตครู

เปิดอ่าน 23,681 ครั้ง
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ

เปิดอ่าน 26,459 ครั้ง
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?

เปิดอ่าน 22,170 ครั้ง
"ปลูกมะนาวแป้นดกพิเศษบนต้นตอส้มโวลคา-เมอเรียน่า"
"ปลูกมะนาวแป้นดกพิเศษบนต้นตอส้มโวลคา-เมอเรียน่า"

เปิดอ่าน 15,300 ครั้ง
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร

เปิดอ่าน 30,880 ครั้ง
ความพิศวงของตัวเลข จำนวนเฉพาะตอนที่ 1
ความพิศวงของตัวเลข จำนวนเฉพาะตอนที่ 1

เปิดอ่าน 24,984 ครั้ง
หนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ (Twilight - Eclipes)
หนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ (Twilight - Eclipes)

เปิดอ่าน 12,049 ครั้ง
ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง
ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 17,263 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

เปิดอ่าน 56,505 ครั้ง
พุทธคุณ 3
พุทธคุณ 3

เปิดอ่าน 17,151 ครั้ง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง

เปิดอ่าน 45,196 ครั้ง
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
เปิดอ่าน 10,494 ครั้ง
ภาษาอังกฤษไม่แข็ง
ภาษาอังกฤษไม่แข็ง
เปิดอ่าน 50,462 ครั้ง
จดหมายถึงครู.... โดย...ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
จดหมายถึงครู.... โดย...ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
เปิดอ่าน 13,572 ครั้ง
ชมย้อนหลังวอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-1เซตเมื่อ 16ก.ย.56
ชมย้อนหลังวอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะญี่ปุ่น 3-1เซตเมื่อ 16ก.ย.56
เปิดอ่าน 13,686 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ