ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ PELAE ร่วมกับชุดการสอน วิชาฟิสิกส์
เรื่อง ไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๕
เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
ผู้ศึกษา นางศิริลักษณ์ ทองศรีนุ่น ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปีที่จัดทำ 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างรูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับชุดการสอนวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับชุดการสอนวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับชุดการสอนวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อเป็นการประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับชุดการสอนวิทยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๕ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2562 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน ชุดการสอนวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลการคิดวิเคราะห์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษา พบว่า 1) ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ร่วมกับชุดการสอน วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมให้นักเรียนสืบเสาะหาความรู้รายบุคคลและโดยส่วนรวม ร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็น ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อมผู้เรียน (Prepare learners) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) ขั้นตอนที่ 3 ขั้นเรียนรู้สิ่งใหม่(Lean something new) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (Application of Knowledge) ขั้นตอนที่ 5 ขั้นการประเมินผล (Evaluation) ผลการสอบถามความเหมาะสมและความสอดคล้องขององค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่ารูปแบบการเรียนรู้แบบ EEPAE ร่วมกับชุดการสอน วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต มีระดับความเหมาะสมมากที่สุด (X = 4.74, SD = 0.09) และค่าความสอดคล้องเท่ากับ 1.00 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบ PELAE ร่วมกับชุดการสอน วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่าประสิทธิภาพคะแนนระหว่างเรียน (E1) ซึ่งเป็นค่าร้อยละของผลคะแนนรวมในระหว่างเรียนโดยทำบัตรใบกิจกรรม บัตรใบงาน บัตรแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบหลังเรียนในชุดการสอน) และค่าประสิทธิภาพการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน(E2) มีค่าเท่ากับ 86.47/85.25 4) ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้แบบ PELAE ร่วมกับชุดการสอน วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีรายละเอียดดังนี้
1) ผลการเปรียบเทียบผลการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ แบบ PELAE ร่วมกับชุดการสอน วิชาฟิสิกส์ เรื่องไฟฟ้าสถิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้มีผลการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก(X = 4.42, SD = 0.08)