ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายแสงสุรีย์ ยอดคำ
ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
หน่วยงาน โรงเรียนพิบูลมังสาหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) สร้างและพัฒนารูปแบบ การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อประเมินผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/8 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบวัดการคิดวิเคราะห์ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัด การเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล และทดสอบสมมุติฐานประกอบด้วย ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ การทดสอบค่าที (t-test dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่า นักเรียนมีความสนใจในการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื่องจากนักเรียนต้องการศึกษาด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ผู้เชี่ยวชาญการสอนวิชาประวัติศาสตร์เห็นด้วยกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนรู้ให้ มีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่สนใจในการเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้รูปแบบกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า SAENG Model โดยรูปแบบมีองค์ประกอบคือ (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3) สาระการเรียนรู้ (4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ (5) การวัดและประเมินผล และ (6) สิ่งส่งเสริมการเรียนรู้ ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน สำหรับกระบวนการจัดกิจกรรมรูปแบบ SAENG Model มีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นกระตุ้นความใฝ่รู้ (Stimulas) 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Ascertain) 3) ขั้นเชื่อมโยงแนวคิด (Elaboration) 4) ขั้นสรุปร่วมกัน (Knowledge sharing) 5) ขั้นประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์ (Great apply and creativity)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.68/84.75
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า
4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4.2 ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7661 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 76.61
4.3 การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4.4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้โดยใช้ Google Classroom เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x = 4.80, S.D. = 0.41)