ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์

เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อผู้วิจัย นายปรมัตถ์ ไชยชาญ

โรงเรียน โรงเรียนเทศบาล 1 (ในระบบสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง)

อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2560-2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาล 1 (ในระบบสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง) อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 35 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Custer Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามผู้บริหาร ครู และนักเรียน 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 6 ชุด

3) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย

4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย 0.33- 0.67 ค่าอำนาจจำแนก 0.50-0.94 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .97 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนจำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติการทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent Samples

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์

เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วย 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 สร้างแรงบันดาลใจ ขั้นที่ 2 ใส่ใจวิเคราะห์งาน ขั้นที่ 3 ประสานความพร้อม ขั้นที่ 4 ล้อมวงสาธิต ขั้นที่ 5 พิชิตการฝึกหัด และขั้นที่ 6 ปฏิบัติอย่างสร้างสรรค์

2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.90/84.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า หลังเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย Poramat : [5 ส.ค. 2563 เวลา 13:32 น.]
อ่าน [5634] ไอพี : 125.24.204.70
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,093 ครั้ง
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร

เปิดอ่าน 33,958 ครั้ง
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ

เปิดอ่าน 31,512 ครั้ง
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค

เปิดอ่าน 15,411 ครั้ง
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย

เปิดอ่าน 10,192 ครั้ง
ตะลึง!!! 90% ของอีเมล์เป็น "สแปม"
ตะลึง!!! 90% ของอีเมล์เป็น "สแปม"

เปิดอ่าน 9,066 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ

เปิดอ่าน 9,470 ครั้ง
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์

เปิดอ่าน 21,561 ครั้ง
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
5 เทคนิคการจำแบบฉบับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

เปิดอ่าน 28,005 ครั้ง
โหมดสี
โหมดสี

เปิดอ่าน 48,598 ครั้ง
6P คาถาที่จะทำให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน
6P คาถาที่จะทำให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน

เปิดอ่าน 12,006 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง

เปิดอ่าน 24,096 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ

เปิดอ่าน 216,019 ครั้ง
เทคนิคการคิดเลขเร็ว
เทคนิคการคิดเลขเร็ว

เปิดอ่าน 3,552 ครั้ง
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 10,467 ครั้ง
10 วิธีรักษาเงินสด
10 วิธีรักษาเงินสด

เปิดอ่าน 4,648 ครั้ง
เทคนิคการคูณเลข
เทคนิคการคูณเลข
เปิดอ่าน 46,006 ครั้ง
วิธีการเชิงระบบ
วิธีการเชิงระบบ
เปิดอ่าน 6,624 ครั้ง
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
เปิดอ่าน 16,207 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เปิดอ่าน 8,429 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ