ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการสอน MATH HAPPY Model

รูปแบบการสอน MATH HAPPY Model

นางสาวรุ่งนิรันดร์ โพธิ์เพชรเล็บ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม

หลักการ

การจัดกระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบ “MATH HAPPY” เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างเจตคติที่ดีต่อรายวิชาคณิตศาสตร์ และมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า สืบค้นข้อมูล คิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยตนเองตามขั้นตอนการแก้ปัญหาของโพลยา ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ โดยอาศัย E-Learning เป็นสื่อเสริม สื่อเติม สื่อหลัก ในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ ภายใต้การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

แนวคิด

1. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คือ แนวการจัดการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่และสิ่งประดิษฐ์ใหม่โดยการใช้กระบวนการทางปัญญา(กระบวนการคิด) กระบวนการทางสังคม (กระบวนการกลุ่ม) และให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วมในการเรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียน การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญต้องจัดให้สอดคล้องกับความสนใจ ความสามารถและความถนัดเน้นการบูรณาการความรู้ในศาสตร์สาขาต่าง ๆ ใช้หลากหลายวิธีการสอนหลากหลายแหล่งความรู้สามารถพัฒนาปัญญาอย่างหลากหลายคือ พหุปัญญา รวมทั้งเน้นการวัดผลอย่างหลากหลายวิธี (พิมพันธ์ เดชะคุปต์, 2550)

โดยปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวิธีการศึกษา ได้แก่ แนวคิดพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยสรุปได้ 4 ประการ คือ

1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different)

2. ความพร้อม (Readiness)

3. การใช้เวลาเพื่อการศึกษา

4. ประสิทธิภาพในการเรียน

2. โพลยา (Polya, 1957: 16-17)

ได้เสนอขั้นตอนการแก้ปัญหาไว้ 4 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจปัญหา (Understanding the problem)

ขั้นที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา (Devising a plan)

ขั้นที่ 3 ดำเนินการตามแผน (Carrying out the plan)

ขั้นที่ 4 ตรวจสอบผล (Looking back)

3. E-Learning

คำว่า e-Learning โดยทั่ว ๆ ไปจะครอบคลุมความหมายที่กว้างมาก กล่าวคือ จะหมายถึง การเรียนในลักษณะใดก็ได้ ซึ่งใช้การถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กทราเน็ต หรือทางสัญญาณโทรทัศน์ หรือสัญญาณดาวเทียม (Satellite) ก็ได้ ซึ่งเนื้อหาสารสนเทศอาจอยู่ในรูปแบบการเรียนที่เราคุ้นเคยกันมาพอสมควร เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction) การสอนบนเว็บ (Web-Based Instruction) การเรียนออนไลน์ (On-line Learning) การเรียนทางไกลผ่าน ดาวเทียม หรืออาจอยู่ในลักษณะที่ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก เช่น การเรียนจากวิดีทัศน ์ตามอัธยาศัย (Video On-Demand) เป็นต้น

4. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์

วัตถุประสงค์

การจัดกระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบ “MATH HAPPY” มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีการศึกษาค้นคว้า สืบค้นข้อมูล และเรียนรู้ด้วยตนเอง

2. เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาให้ผู้เรียนอย่างเป็นขั้นตอน

3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และมีการแลกเปลี่ยนความรู้

4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อรายวิชาคณิตศาสตร์

กิจกรรมและขั้นตอนการดำเนินงาน

1. ขั้นนำ

M (Mouth) หมายถึง พูดคุย

คำอธิบาย: เป็นการพูดคุยระหว่างครูกับนักเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างความเป็นกันเอง สร้างบรรยากาศที่ดีในชั้นเรียน และเตรียมความพร้อมในการเรียน

2. ขั้นสอน

A (Activity) หมายถึง กิจกรรม

คำอธิบาย: ครูจัดกิจกรรม จัดการเรียนการสอนเนื้อหาแก่นักเรียนทั้งชั้นโดยรวมก่อน อาจใช้อุปกรณ์การสอนต่าง ๆ มาช่วยในการสอน เนื้อหาที่สอนจะเป็นหน่วยการเรียนที่จะให้นักเรียนศึกษา

3. ขั้นสืบค้น

T (Technology) หมายถึง เทคโนโลยี

คำอธิบาย: กระบวนการค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากฐานข้อมูลต่าง ๆ โดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ในการสืบค้นเพื่อให้ได้ความรู้มา

H (How?) หมายถึง อย่างไร?

คำอธิบาย: การอภิปรายข้อค้นพบจากการสืบค้น

H (Higher Thinking) หมายถึง การคิดขั้นสูง

คำอธิบาย: การนำข้อมูล/ข้อค้นพบ จากการสืบค้นมาประมวลผล โดยใช้วิจารณญาณหรือการตัดสินอย่างมีเหตุผลรอบด้าน เพื่อแก้ปัญหา ตัดสินใจและสร้างแนวคิดใหม่ ๆ

A (Adjustment) หมายถึง การปรับให้เหมาะสม

คำอธิบาย: การนำแนวคิดที่ได้จากการประมวลผลมาปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัญหาของตนเอง

4. ขั้นนำเสนอ

P (Present) หมายถึง นำเสนอ

คำอธิบาย: การที่ผู้เรียนได้นำรายละเอียดผลของการแก้ปัญหามานำเสนอแก่ครูผู้สอน เพื่อนร่วมชั้น ได้รับทราบถึงวิธีการ/กระบวนการ/ขั้นตอน/แนวคิด ในการได้มาซึ่งคำตอบหรือผลลัพธ์ที่ค้นพบ และมีการแลกเปลี่ยน ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้นำเสนอในการปรับปรุงหรือพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้อาจมีการจัดแสดงผลงานแก่บุคคลภายนอก เช่น การจัดป้ายนิเทศ การเผยแพร่สู่สังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นต้น

5. ขั้นปฏิบัติ

P (Problem-solving) หมายถึง การแก้ปัญหา

คำอธิบาย: การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา (Polya) ดังนี้

ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจโจทย์ (Understanding the problem)

- ทำความเข้าใจถ้อยคำต่าง ๆ ในปัญหา

- แยกแยะให้ออกว่าสิ่งที่ต้องการหาคืออะไร

- ข้อมูลและเงื่อนไขกำหนดให้มีอะไรบ้าง เพียงพอที่จะหาคำตอบได้หรือไม่

ขั้นที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา (Devising a plan)

2.1 มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาในลักษณะนั้น ๆ มาก่อน

- พิจารณาสิ่งที่ต้องการหา

- เลือกปัญหาเก่าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับปัญหาที่จะแก้ ทำให้ได้แนวทาง

- ปรับปรุงแนวทางในการแก้ปัญหาเก่าให้สอดคล้องเหมาะสมกับปัญหาใหม่

- วางแผนแก้ปัญหา

2.2 ไม่มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาลักษณะนี้มาก่อน

- พิจารณาสิ่งที่ต้องการหา

- หาวิธีการเพื่อให้ได้ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่ต้องการหากับข้อมูลที่มีอยู่

- พิจารณาดูว่า ความสัมพันธ์นั้นสามารถหาคำตอบได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือหาความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น

- วางแผนแก้ปัญหา

2.3 ดำเนินการแก้ปัญหาตามแผนที่วางไว้ เมื่อวางแผนเสร็จแล้วก็ดำเนินการแก้ปัญหาตามแผนที่วางไว้ ระหว่างการดำเนินการ ถ้าเห็นแนวทางอื่นที่ดีกว่าก็สามารถนำมาปรับเปลี่ยนได้

2.4 ตรวจสอบการแก้ปัญหา เมื่อได้วิธีการแก้ปัญหาแล้ว จำเป็นต้องตรวจสอบว่าวิธีการที่ใช้ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องหรือไม่

ขั้นที่ 3 ปฏิบัติตามแผน (Carrying out the plan)

เมื่อได้มีการวางแผนแล้วก็ดำเนินการแก้ปัญหา ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหา อาจทำให้เห็นแนวทางที่ดีกว่าที่คิดไว้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้

ขั้นที่ 4 ตรวจสอบ (Looking back)

เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบผลลัพธ์ว่า ได้ดำเนินการแก้ปัญหาตามแผนที่วางไว้ถูกต้องหรือไม่

6. ขั้นสรุป

Y (Yes or No?) หมายถึง กิจกรรมใช่หรือไม่?

คำอธิบาย: กิจกรรมสรุปบทเรียนโดยใช้รูปแบบการถาม-ตอบ ระหว่างครูกับนักเรียน และระหว่างนักเรียนกับนักเรียน เพื่อสร้างเป็นความคิดรวบยอด (Concept) ของเนื้อหาที่เรียนผ่านมา

โพสต์โดย yui007 : [3 ส.ค. 2563 เวลา 19:33 น.]
อ่าน [13591] ไอพี : 223.206.240.21
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,379 ครั้ง
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
แนวทางดำเนินงานโครงการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 11,393 ครั้ง
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?

เปิดอ่าน 12,724 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

เปิดอ่าน 10,217 ครั้ง
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน

เปิดอ่าน 12,910 ครั้ง
6 วิธีแก้เครียด
6 วิธีแก้เครียด

เปิดอ่าน 21,354 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 77,295 ครั้ง
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด
อำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 9,261 ครั้ง
หลักฟื้นสภาพจิตใจหลังน้ำลด
หลักฟื้นสภาพจิตใจหลังน้ำลด

เปิดอ่าน 25,543 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐

เปิดอ่าน 16,354 ครั้ง
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ

เปิดอ่าน 25,570 ครั้ง
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คืออะไร

เปิดอ่าน 15,014 ครั้ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 35,074 ครั้ง
การถวายสังฆทาน
การถวายสังฆทาน

เปิดอ่าน 20,540 ครั้ง
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 231,244 ครั้ง
รูปแบบจำลอง S M C R Model
รูปแบบจำลอง S M C R Model

เปิดอ่าน 14,147 ครั้ง
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ
เคล็ดลับน่ารู้วิธีเลิกติดกาแฟ
เปิดอ่าน 9,961 ครั้ง
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน
เปิดอ่าน 11,089 ครั้ง
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.
แบบคำขอมีบัตร ประจำตัวข้าราชการ ตำแหน่ง ผอ.สพท.
เปิดอ่าน 33,960 ครั้ง
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
เปิดอ่าน 1,424 ครั้ง
โรคเก๊าต์ เกิดจากอะไร มีอาการแบบไหน รักษาอย่างไร อาหารอะไรกินได้และไม่ควรกิน
โรคเก๊าต์ เกิดจากอะไร มีอาการแบบไหน รักษาอย่างไร อาหารอะไรกินได้และไม่ควรกิน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ