ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นางอุมาพร สุตานนท์
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ประเมินผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 2 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี จำนวน 33 คน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบประเมินทักษะดนตรี 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า การที่นักเรียนจะได้รับความรู้ เกิดความเข้าใจ ในวิชาศิลปะ สาระดนตรี เกิดเจตคติที่ดีต่อการเรียนดนตรี มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในสาระดนตรีที่สูงขึ้น และมีความรู้ความสามารถตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดที่กำหนดในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นั้น นักเรียนต้องได้รับการพัฒนาให้เกิดทักษะดนตรีทั้ง 6 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการอ่าน-เขียนโน้ต การเล่นดนตรี การฟัง การร้องเพลง การเคลื่อนไหวร่างกาย และทักษะการสร้างสรรค์ทางดนตรี เมื่อผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้เกิดทักษะดนตรีทั้ง 6 ทักษะ ผู้เรียนจะเกิดความเข้าใจและสามารถเชื่อมโยงความรู้ ประสบการณ์ทางดนตรี ไปสู่เนื้อหาในสาระดนตรี ได้อย่างครบถ้วน
2. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า PACEE Model มีองค์ประกอบคือ หลักการ แนวคิด วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ และการประเมินผล มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเตรียมความพร้อม (Preparation: P) 2) ขั้นเพิ่มความชำนาญ (The addition of expertise: A) 3) ขั้นสร้างสรรค์ผลงาน (Creation: C) 4) ขั้นเพิ่มประสบการณ์ (Experience Increases: E) 5) ขั้นประเมินผลงานและปรับปรุง (Evaluation and Adjustment: E) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.85/81.62 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดจัดการเรียนรู้ PACEE Model เพื่อเสริมสร้างทักษะดนตรี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด