ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนารูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม

ชื่องานวิจัย รายงานการพัฒนารูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม

ผู้วิจัย นายนัทต์ธิพัฒน์ ภารสมบูรณ์

ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2563

การพัฒนารูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม และ 2) เพื่อประเมินรูปแบบ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน และข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษา โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม จำนวน 18 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม จำนวน 2 ชุด ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี และ 2) แบบสอบถามความคิดเห็น เกี่ยวกับผลการใช้รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการวิจัย

การพัฒนารูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม สรุปผลได้ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ ความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม พบว่า

1) ด้านการส่งเสริมบุคลากร

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการส่งเสริมบุคลากร มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.66) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการส่งเสริมบุคลากร เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การมีวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์ร่วมกัน ( = 4.70) มีการสร้างความตระหนักความเข้าใจ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.68) และการส่งเสริมบุคลากร ในการปฏิบัติภารกิจ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.62) ตามลำดับ

2) ด้านการพัฒนาบุคลากรในเรื่องกระบวนการเรียนรู้

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการพัฒนาบุคลากรในเรื่องกระบวนการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการพัฒนาบุคลากรในเรื่องกระบวนการเรียนรู้ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การนิเทศติดตามผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ ( = 4.69) การรายงานผลการจัดกิจกรรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ แล้วนำผลการจัดกิจกรรมไปปรับปรุงแก้ไขครั้งต่อไป ( = 4.67) และการพัฒนาบุคลากรด้านการเรียนการสอนให้รู้จักเทคนิค และวิธีการสอนอย่างหลากหลาย ( = 4.65) ตามลำดับ

3) ด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการการเอื้ออาทร

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการเอื้ออาทร มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการการเอื้ออาทร โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ บุคลากร มีความรู้สึกที่เต็มใจ (Willingness) ในการดำเนินงาน ( = 4.69) บุคลากรมีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) กัน และร่วมมือกัน ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ( = 4.66) และบุคลากรตระหนักและเข้าใจ ในความสำคัญของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ( = 4.59) ตามลำดับ

4) ด้านการกำกับนิเทศติดตาม

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการกำกับนิเทศติดตาม มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการกำกับนิเทศติดตาม โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ สถานศึกษามีการกำหนดนโยบายและทิศทาง การนิเทศภายในสถานศึกษา ( = 4.70) ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนและกำหนดปฏิทินการนิเทศการเรียนการสอน ( = 4.68) และการควบคุมกำกับ ติดตาม การนิเทศงานการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ( = 4.66) ตามลำดับ

5) ด้านการประสานความร่วมมือ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงานและสถานบันอื่นที่จัดการศึกษา

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านประสานความร่วมมือ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงานและสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการประสาน ความร่วมมือ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงาน และสถานบันอื่น ที่จัดการศึกษา โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การจัดทำปฏิทินประสานความร่วมมือ ในการยกระดับผมสัมฤทธิ์ทางการเรียนและดำเนินการ ตามกำหนดสม่ำเสมอ ( = 4.70) การกำหนดเป้าหมายประสานความร่วมมือในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.69) และการรายงานผลดำเนินงานประสาน ความร่วมมือในการยกระดับผมสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.68) ตามลำดับ

2. ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผลการใช้รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม พบว่า

1) ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ นักเรียน มีผลการประเมินการอ่านออกเขียนได้กว่าปีการศึกษา 2561 ( = 4.70) นักเรียนมีผลการอ่านคิดวิเคราะห์สูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2561 ( = 4.62) และจำนวนนักเรียนอ่านออกเขียนได้ตามเกณฑ์การประเมินสูงกว่า ปีการศึกษา 2561 ( = 4.55) ตามลำดับ

2) ด้านประสิทธิภาพของครู

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านประสิทธิภาพของครู โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ครูและผู้ปกครองมีส่วนร่วม ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.70) ครูมีการพัฒนาตนเอง โดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ในการพัฒนานักเรียน ( = 4.69) และครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ( = 4.67) ตามลำดับ

3) ด้านประสิทธิภาพการดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของสถานศึกษาของผู้บริหาร

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านประสิทธิภาพการบริหารงานยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.67) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านประสิทธิภาพการดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของสถานศึกษาของผู้บริหาร โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ผู้บริหารส่งเสริมการมีส่วนร่วม ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากทุกภาคส่วน ( = 4.70) ผู้บริหารมีการกำกับนิเทศติดตามงาน ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.69) และผู้บริหารตระหนักและเห็นความสำคัญ ของการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.68) ตามลำดับ

3. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหาสถานศึกษา โดยใช้ BCC Model จากกิจกรรม พบว่า ค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไปทุกกิจกรรม จึงยอมรับได้ว่า รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีความเหมาะสมและเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ

ผู้วิจัย นายนัทต์ธิพัฒน์ ภารสมบูรณ์

ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2563

การพัฒนารูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม และ 2) เพื่อประเมินรูปแบบ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน และข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษา โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม จำนวน 18 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม จำนวน 2 ชุด ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี และ 2) แบบสอบถามความคิดเห็น เกี่ยวกับผลการใช้รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผลการวิจัย

การพัฒนารูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม สรุปผลได้ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ ความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม พบว่า

1) ด้านการส่งเสริมบุคลากร

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการส่งเสริมบุคลากร มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.66) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการส่งเสริมบุคลากร เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การมีวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์ร่วมกัน ( = 4.70) มีการสร้างความตระหนักความเข้าใจ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.68) และการส่งเสริมบุคลากร ในการปฏิบัติภารกิจ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.62) ตามลำดับ

2) ด้านการพัฒนาบุคลากรในเรื่องกระบวนการเรียนรู้

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการพัฒนาบุคลากรในเรื่องกระบวนการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการพัฒนาบุคลากรในเรื่องกระบวนการเรียนรู้ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การนิเทศติดตามผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ ( = 4.69) การรายงานผลการจัดกิจกรรมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ แล้วนำผลการจัดกิจกรรมไปปรับปรุงแก้ไขครั้งต่อไป ( = 4.67) และการพัฒนาบุคลากรด้านการเรียนการสอนให้รู้จักเทคนิค และวิธีการสอนอย่างหลากหลาย ( = 4.65) ตามลำดับ

3) ด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการการเอื้ออาทร

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการเอื้ออาทร มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการสร้างบรรยากาศแห่งการการเอื้ออาทร โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ บุคลากร มีความรู้สึกที่เต็มใจ (Willingness) ในการดำเนินงาน ( = 4.69) บุคลากรมีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) กัน และร่วมมือกัน ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ( = 4.66) และบุคลากรตระหนักและเข้าใจ ในความสำคัญของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ( = 4.59) ตามลำดับ

4) ด้านการกำกับนิเทศติดตาม

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านการกำกับนิเทศติดตาม มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการกำกับนิเทศติดตาม โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ สถานศึกษามีการกำหนดนโยบายและทิศทาง การนิเทศภายในสถานศึกษา ( = 4.70) ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนและกำหนดปฏิทินการนิเทศการเรียนการสอน ( = 4.68) และการควบคุมกำกับ ติดตาม การนิเทศงานการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ( = 4.66) ตามลำดับ

5) ด้านการประสานความร่วมมือ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงานและสถานบันอื่นที่จัดการศึกษา

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านประสานความร่วมมือ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงานและสถาบันอื่นที่จัดการศึกษา มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านการประสาน ความร่วมมือ ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากบุคคล ครอบครัว ชุมชน หน่วยงาน และสถานบันอื่น ที่จัดการศึกษา โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ การจัดทำปฏิทินประสานความร่วมมือ ในการยกระดับผมสัมฤทธิ์ทางการเรียนและดำเนินการ ตามกำหนดสม่ำเสมอ ( = 4.70) การกำหนดเป้าหมายประสานความร่วมมือในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.69) และการรายงานผลดำเนินงานประสาน ความร่วมมือในการยกระดับผมสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.68) ตามลำดับ

2. ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผลการใช้รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนโรงเรียนหนองบัวฮีวิทยาคม พบว่า

1) ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ นักเรียน มีผลการประเมินการอ่านออกเขียนได้กว่าปีการศึกษา 2561 ( = 4.70) นักเรียนมีผลการอ่านคิดวิเคราะห์สูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2561 ( = 4.62) และจำนวนนักเรียนอ่านออกเขียนได้ตามเกณฑ์การประเมินสูงกว่า ปีการศึกษา 2561 ( = 4.55) ตามลำดับ

2) ด้านประสิทธิภาพของครู

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านประสิทธิภาพของครู โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ครูและผู้ปกครองมีส่วนร่วม ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.70) ครูมีการพัฒนาตนเอง โดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ในการพัฒนานักเรียน ( = 4.69) และครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ( = 4.67) ตามลำดับ

3) ด้านประสิทธิภาพการดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของสถานศึกษาของผู้บริหาร

ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ด้านประสิทธิภาพการบริหารงานยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.67) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า กิจกรรมด้านประสิทธิภาพการดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของสถานศึกษาของผู้บริหาร โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 ลำดับ คือ ผู้บริหารส่งเสริมการมีส่วนร่วม ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากทุกภาคส่วน ( = 4.70) ผู้บริหารมีการกำกับนิเทศติดตามงาน ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.69) และผู้บริหารตระหนักและเห็นความสำคัญ ของการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( = 4.68) ตามลำดับ

3. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหาสถานศึกษา โดยใช้ BCC Model จากกิจกรรม พบว่า ค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นอยู่ในระดับมากขึ้นไปทุกกิจกรรม จึงยอมรับได้ว่า รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีความเหมาะสมและเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ

โพสต์โดย ble ubon : [2 ส.ค. 2563 เวลา 05:28 น.]
อ่าน [5140] ไอพี : 223.205.236.105
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,417 ครั้ง
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.
รู้เท่าทันก่อนจะหันมาใช้ "บัตรเครดิต" โดย สคบ.

เปิดอ่าน 12,647 ครั้ง
เป็นอันธพาลเป็นโรคจิต เหตุเพราะขาดฮอร์โมนคุมการประพฤติ
เป็นอันธพาลเป็นโรคจิต เหตุเพราะขาดฮอร์โมนคุมการประพฤติ

เปิดอ่าน 17,815 ครั้ง
คลิปข่าวทุจริตสอบ ล่าสุดจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 9 มี.ค.56
คลิปข่าวทุจริตสอบ ล่าสุดจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 9 มี.ค.56

เปิดอ่าน 36,808 ครั้ง
ทำ "แผลแห้ง-แผลเปียก" ถูกวิธี
ทำ "แผลแห้ง-แผลเปียก" ถูกวิธี

เปิดอ่าน 10,842 ครั้ง
เทคนิค"อ่านเร็ว"ใช้ไม่ได้ผล
เทคนิค"อ่านเร็ว"ใช้ไม่ได้ผล

เปิดอ่าน 16,999 ครั้ง
เงิน กับ ธรรมะ
เงิน กับ ธรรมะ

เปิดอ่าน 37,656 ครั้ง
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)
Why Do We Get Goose Bumps? (ทำไมเราจึงเกิด อาการขนลุก)

เปิดอ่าน 13,119 ครั้ง
7 Thinking method to be genius วิธีคิดอย่างคนเก่ง
7 Thinking method to be genius วิธีคิดอย่างคนเก่ง

เปิดอ่าน 25,058 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ

เปิดอ่าน 20,253 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง

เปิดอ่าน 13,315 ครั้ง
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ
ปวดท้องแบบไหน เป็นไส้ติ่งอักเสบ

เปิดอ่าน 1,552 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 3,294 ครั้ง
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน
ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียน-หน่วยราชการ ให้จนท.ทำงานที่บ้านประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 593,680 ครั้ง
Adjective ตำแหน่งของคุณศัพท์ ( Position )
Adjective ตำแหน่งของคุณศัพท์ ( Position )

เปิดอ่าน 13,570 ครั้ง
เชิญชวนสังเกตุปรากฏการณ์ธรรมชาติ สุริยุปราคา 26 มกราคม 2552
เชิญชวนสังเกตุปรากฏการณ์ธรรมชาติ สุริยุปราคา 26 มกราคม 2552

เปิดอ่าน 20,109 ครั้ง
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน
เปิดอ่าน 23,970 ครั้ง
คลิปโครงการ "ลดพุงลดโรค 90 วินาที" โดย สสส. ที่กำลังฮิตสุดๆ ในขณะนี้
คลิปโครงการ "ลดพุงลดโรค 90 วินาที" โดย สสส. ที่กำลังฮิตสุดๆ ในขณะนี้
เปิดอ่าน 221,285 ครั้ง
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1
เปิดอ่าน 17,612 ครั้ง
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว
เปิดอ่าน 12,249 ครั้ง
35 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ของคนวัย 35 ที่น่าเลียนแบบ
35 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ของคนวัย 35 ที่น่าเลียนแบบ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ