ชื่อวิจัย รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E
เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว
ผู้วิจัย ณัฐพงศ์ วงศ์น้อย
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้
กลุ่มทดลองกลุ่มเดียว มีการวัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จำนวนนักเรียน 41 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ชุด 2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) หาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที t test
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.07/83.90 ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ตั้งไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว มีความพึงพอใจ
ต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง น้ำ ลม และอากาศรอบตัว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.51 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.57