ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสาวเพ็ญประภา กฤษฎาเรืองศรี
หน่วยงาน โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ 2 สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพ 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 4) ประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ 2 สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 คัดเลือกโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 30 คน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 17 ชั่วโมง โดยผู้วิจัยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ADEPT Model ในขั้นการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วยขั้นจัดการเรียนรู้ทั้งหมด 5 ขั้น คือ 1. ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Appealing : A) 2. ขั้นค้นหา (Discovery : D) ประกอบด้วย กำหนดปัญหา ทำความเข้าใจปัญหา ดำเนินการศึกษาค้นคว้า และสังเคราะห์ความรู้ 3. ขั้นอธิบายและขยายความรู้ (Explanation & Elaboration : E) 4. ขั้นนำเสนอผลงาน (Presentation : P) 5. ขั้นตรวจสอบและประเมินผลงาน (Try out & Evaluation : T) 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหา 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบทีแบบไม่อิสระ
ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียน ครู และผู้เกี่ยวข้องมีความคิดเห็นว่าข้อมูลและนำผลที่ได้มาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน ทั้งในด้านรูปแบบ เนื้อหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นใบความรู้ ใบกิจกรรม ใบงาน และแบบทดสอบ และการวัดผลและประเมินผล
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีค่าประสิทธิภาพ 80.56/81.33
3. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถใน
การแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วัดความสามารถในการแก้ปัญหาหลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.33 คิดเป็นร้อยละ 81.67 และมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 82.16/82.44 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด