ชื่อผู้วิจัย : นายถาวร เวชจันทร์
ตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศติดตาม และประเมินผลการจัดการ
ศึกษา สพม.14
ปีการศึกษา : 2561-2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา สถานศึกษาในสังกัดสพม. 14 โดยใช้เครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) 2. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกเป็น 2.1 พฤติกรรมการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สพม.14 2.2 พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูใน สังกัด สพม.14 2.3 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.3 และชั้น ม.6 ของเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 2.4 ผลกระทบเชิงบวก ซึ่งเป็นรางวัลระดับชาติที่ สพม.14 สถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และนักเรียนในสังกัด สพม.14 ได้รับการประกาศเกียรติคุณ และ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และเครือข่ายการนิเทศการศึกษา ที่มีต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา สถานศึกษาในสังกัดสพม.14 โดยใช้เครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ : PLC หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 จำนวน 51 คน ครู ปีการศึกษา 2561 จำนวน 317 คน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 303 คน นักเรียน ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 379 คน และเครือข่ายการนิเทศการศึกษา ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทั้ง 6 ฉบับ มีลักษณะเป็นแบบสอบถามประมาณค่า (Ratting Scale) 5 ระดับ จำนวน 4 ฉบับ และแบบบันทึกผลตามสภาพจริง เกี่ยวกับผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) จำนวน 1 ฉบับ แบบบันทึกผลตามสภาพจริงเกี่ยวกับผลกระทบเชิงบวกที่เขตพื้นที่การศึกษาสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และนักเรียนในสังกัด สพม.14 ได้รับรางวัลระดับประเทศ จำนวน 1 ฉบับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .952-.980
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS VERSION 18
ผลการวิจัยพบว่า
1. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการพัฒนาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา สถานศึกษาในสังกัด สพม. 14 โดยใช้เครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) หลังการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2561-2562 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และเครือข่ายการนิเทศการศึกษา โดยจำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (x̄ =3.67, S.D.= .52) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ย (x̄ =3.62, S.D.= .59) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มเครือข่ายนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̄ =3.57, S.D.= .54) อยู่ในระดับมาก เช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ =4.71, S.D.= .51) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มเครือข่ายนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ย (x̄ =4.67, S.D.= .52) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̄ =4.63, S.D.= .59) อยู่ในระดับมาก ที่สุดเช่นกัน สอดคล้องตามสมมติฐาน
2. สรุปผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษาสถานศึกษาในสังกัด สพม.14 โดยใช้เครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ : PLC หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกเป็น
2.1 ผลการวิเคราะห์พฤติกรรมการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 ตามความคิดเห็นของครู และเครือข่ายการนิเทศการศึกษา โดยจำแนกตามกลุ่มที่ประเมิน พบว่า
ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มเครือข่ายการนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ =3.64, S.D.= .61) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ย (x̄ =3.58, S.D.= .62) อยู่ในระดับมาก เช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มเครือข่ายการนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ =4.73, S.D.= .53) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ย (x̄ =4.63, S.D.= .54) อยู่ในระดับมาก เช่นกัน สอดคล้องตามสมมติฐาน
2.2 ผลการวิเคราะห์พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู หลังการพัฒนาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน และเครือข่ายการนิเทศการศึกษา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า
ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มเครือข่ายการนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ =3.58, S.D.= .61) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ย (x̄ =3.53, S.D.= .61) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̄ =3.51, S.D.= .62) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ = 4.61, S.D.= .61) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน และกลุ่มเครือข่ายการนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ย (x̄ =4.58, S.D.= .59) อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกันสอดคล้องตามสมมติฐาน
2.3 สรุปผลการวิเคราะห์ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้น ม.3 และนักเรียนชั้นม.6 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกตามระดับเขตพื้นที่การศึกษา (สพม.14) ระดับ สพฐ. และระดับประเทศ พบว่า
2.3.1 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้น ม.3 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกตามระดับเขตพื้นที่การศึกษา (สพม.14) ระดับ สพฐ. และระดับประเทศ พบว่า
ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมวิชาภาษาไทย สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 61.15 ระดับสพฐ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 55.04 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 54.42 วิชาภาษาอังกฤษ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 32.57 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 29.10 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 29.45 วิชาคณิตศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 35.83 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.28 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.04 วิชาวิทยาศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 39.61 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 36.43 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 36.10 แสดงให้เห็นว่า หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.3 สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ระดับ สพฐ และระดับประเทศ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบ
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมวิชาภาษาไทย สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 60.63 ระดับสพฐ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 55.91 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 51.14 วิชาภาษาอังกฤษ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 38.41 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 32.98 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 33.25 วิชาคณิตศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 32.10 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 26.98 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 26.73 วิชาวิทยาศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 31.74 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.07 แสดงให้เห็นว่า หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.3 สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ระดับ สพฐ และระดับประเทศ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบ สอดคล้องตามสมมติฐาน
2.3.2 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้น ม.6 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบ หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกตามระดับเขตพื้นที่การศึกษา (สพม.14) ระดับ สพฐ. และระดับประเทศ พบว่า
ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมวิชาภาษาไทย สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 51.25 ระดับสพฐ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 48.16 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 47.31 วิชาสังคมศึกษาฯ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 36.32 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 35.45 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 35.16 วิชาภาษาอังกฤษ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 35.49 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 31.15 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 31.41 วิชาคณิตศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 34.18 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 31.04 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 30.72 วิชาวิทยาศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 31.69 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.75 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.51 แสดงให้เห็นว่า หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.6 สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ระดับ สพฐ และระดับประเทศ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบ
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมวิชาภาษาไทย สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 46.00 ระดับสพฐ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 43.02 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 42.21 วิชาสังคมศึกษาฯ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 37.46 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 36.10 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 35.70 วิชาภาษาอังกฤษ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 32.53 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 28.97 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 29.20 วิชาคณิตศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 28.57 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 25.62 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 25.41 วิชาวิทยาศาสตร์ สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 30.32 ระดับ สพฐ. มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 29.40 ระดับประเทศ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 29.20 แสดงให้เห็นว่า หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.6 สพม.14 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ระดับ สพฐ และระดับประเทศ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทดสอบสอดคล้องตามสมมติฐาน
2.4 สรุปผลการวิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวก หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 พบว่า เขตพื้นที่การศึกษา (สพม.14) สถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และนักเรียน ในสังกัด สพม.14 หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 มีผลกระทบเชิงบวกได้รับรางวัลระดับชาติ ครอบคลุมทุกมิติของกลุ่มเป้าหมาย สอดคล้องตามสมมติฐาน
3. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และเครือข่ายการนิเทศการศึกษา ที่มีต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษาสถานศึกษาในสังกัด สพม.14 โดยใช้เครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2561-2562 จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า
ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มเครือข่ายการนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ =3.73, S.D.= .55) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู มีค่าเฉลี่ย (x̄ =3.66, S.D.= .51) อยู่ในระดับมาก ส่วนกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̄ =3.64, S.D.= .54) อยู่ในระดับมากเช่นกัน
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า กลุ่มเครือข่ายการนิเทศการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x̄ =4.64, S.D.= .51) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา (x̄ =4.60, S.D.= .52) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (x̄ =4.46, S.D.= .50) อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน สอดคล้องตามสมมติฐาน
ข้อเสนอแนะ
จากการวิจัยการพัฒนาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษาสถานศึกษาในสังกัด สพม.14 โดยใช้เครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) ปีการศึกษา 2561-2562 ครั้งนี้ทำให้ค้นพบจุดเด่น ของการเป็นแบบอย่างที่ดีซึ่งเป็นประโยชน์ และเป็นแนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา ต่อไป
1. ข้อเสนอแนะเพื่อการนำไปใช้
1.1 เครือข่ายการนิเทศการศึกษาระดับ สพม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายสหวิทยาเขต และศึกษานิเทศก์ และเครือข่ายการนิเทศระดับสถานศึกษา (PLC ระดับสถานศึกษา) ควรรู้ชัดในสภาพปัญหา และความต้องการจำเป็นในการขับเคลื่อน/พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามบทบาท/หน้าที่ร่วมกัน และนำไปสู่การกำหนดเป้าหมาย การวางแผน ออกแบบกิจกรรมนิเทศ/กิจกรรมพัฒนา ภายใต้บรรยากาศกัลยาณมิตรนิเทศ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี ตามบทบาท อำนาจหน้าที่ และสถานการณ์ มีการสะท้อนคิดเสวนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างการปฏิบัติงาน และหลังการปฏิบัติงาน และนำวิธีการปฏิบัติที่ดี มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนา และสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
1.2 การผลิตสื่อเครื่องมือการนิเทศของเครือข่ายการนิเทศการศึกษา นอกเหนือจากมีความถูกต้องตามหลักวิชาการแล้ว การนำวิธีการปฏิบัติที่ดีของผู้รับการนิเทศมาสังเคราะห์ และประมวล รวบรวมเป็นสื่อนิเทศ ในรูปแบบต่างๆ ทั้งรูปแบบสื่อ เอกสาร และสื่อนิเทศทางไกล โดยใช้เทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ นับเป็นวิธีการที่แยบยลในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้รับการนิเทศโดยการเผยแพร่ผลงาน และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาต่อยอดจาก Good practices เป็น Best Practices จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
1.3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา และสถานศึกษา ควรพัฒนาชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็นวิถีของเขตพื้นที่การศึกษา/กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา และสถานศึกษา ที่มีความเด่นชัด และมีอัตลักษณ์เป็นของตนเอง สามารถเป็นแบบอย่างของเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาอื่นได้
2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
2.2 ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพผู้เรียนระดับสถานศึกษากับการนิเทศภายในโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC)
2.3 ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมิติ (O-NET) ของนักเรียนชั้น ม.3 และชั้น ม.6 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน