ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

บทคัดย่อ

รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วัตถุประสงค์วิจัย ได้แก่ 1)เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม 3)เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนห้วยข่าพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการวิจัย 2563 จำนวน 27 คน

ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1)แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.82 2)แบบฝึกทักษะ จำนวน 10 เล่ม ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.71 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ ค่า IOC โดยรวมเท่ากับ 0.85 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าอำนาจจำแนกทั้งฉบับเท่ากับ 0.8607 4)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 19 ข้อ ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.63 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.9042 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pre-test Post-test Design ได้แก่ ทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) ทำการสอนตามแผนที่ออกแบบไว้ ทดสอบย่อยระหว่างเรียนและทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (Post-test) ใช้แบบสอบถามให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ หลังเรียนจบ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ IOC วิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบ หาค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้สถิติของแบรนแนน (Brennan) หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งฉบับ (rcc) ใช้สถิติของโลเวท (Lovett) หาค่าอำนาจจำแนกแบบสอบถามความพึงพอใจเป็นรายข้อ โดยใช้วิธีItem–total Correlation ใช้สูตรสหสัมพันธ์อย่างง่ายของ Pearson หาค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามความพึงพอใจทั้งฉบับ โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach) ใช้สถิติ E1/ E2 วิเคราะห์ค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ใช้สถิติ t-test ทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน และทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียน ใช้สถิติ E.I. วิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ และใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (X-bar) ร้อยละ (P) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการศึกษาพบว่า

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม มีค่าเท่ากับ 78.19/75.09 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งเอาไว้

2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนทดสอบนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม มีค่าเท่ากับ 0.5647 คิดเป็นร้อยละ 56.47 หมายความว่า แบบฝึกทักษะชุดนี้ทำให้ผลการเรียนของนักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 56.47 สูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้

4. โดยรวมความพึงพอใจของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงมีค่าอยู่ในระดับมาก

(X-bar =4.36) โดยนักเรียนหญิงมีความพึงพอใจค่าเฉลี่ยสูงกว่านักเรียนชาย และโดยรวมความพึงพอใจของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนมีค่าอยู่ในระดับปานกลาง (X-bar =3.09) โดยนักเรียนชายมีความพึงพอใจค่าเฉลี่ยสูงกว่านักเรียนหญิง และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างค่าเฉลี่ยความพึงพอใจก่อนและหลังเรียน พบว่า ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

โพสต์โดย นายชูชาติ บุญชู : [18 ก.ค. 2563 เวลา 11:04 น.]
อ่าน [5131] ไอพี : 223.206.239.222
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,390 ครั้ง
กระโดดเชือกแบบทีมเจ๋งๆ ลีลาเทพโคตร! ขอบอก
กระโดดเชือกแบบทีมเจ๋งๆ ลีลาเทพโคตร! ขอบอก

เปิดอ่าน 9,950 ครั้ง
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน

เปิดอ่าน 11,088 ครั้ง
ซุปเปอร์บอร์ดจะเป็นอัศวินม้าขาว ทางการศึกษาไทยได้หรือ
ซุปเปอร์บอร์ดจะเป็นอัศวินม้าขาว ทางการศึกษาไทยได้หรือ

เปิดอ่าน 12,388 ครั้ง
ปรับระบบสอบคัดเลือกปีการศึกษา 2561"เคลียริ่งเฮาส์" สะเทือนสังคมไทย : ใครได้-ใครเสีย...?
ปรับระบบสอบคัดเลือกปีการศึกษา 2561"เคลียริ่งเฮาส์" สะเทือนสังคมไทย : ใครได้-ใครเสีย...?

เปิดอ่าน 2,327 ครั้ง
Blog คืออะไร
Blog คืออะไร

เปิดอ่าน 11,231 ครั้ง
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม

เปิดอ่าน 19,041 ครั้ง
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 30,653 ครั้ง
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย

เปิดอ่าน 7,724 ครั้ง
ทำอย่างไร?...ถึงจะทำให้คนในชาติเกิดค่านิยมไทย
ทำอย่างไร?...ถึงจะทำให้คนในชาติเกิดค่านิยมไทย

เปิดอ่าน 8,876 ครั้ง
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563
แนวทางการจัดทำข้อมูล DMC ปีการศึกษา 2563

เปิดอ่าน 18,930 ครั้ง
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ

เปิดอ่าน 12,800 ครั้ง
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์
ดิจิตอลอีสาน...ใบลานอิเลคทรอนิกส์

เปิดอ่าน 10,577 ครั้ง
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก
เป็นปลื้มกับ 12 เรื่องแรกของลูก

เปิดอ่าน 10,697 ครั้ง
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส

เปิดอ่าน 12,086 ครั้ง
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา

เปิดอ่าน 22,342 ครั้ง
รู้จักวิตามิน H
รู้จักวิตามิน H
เปิดอ่าน 5,578 ครั้ง
ประวัติลูกเสือไทย
ประวัติลูกเสือไทย
เปิดอ่าน 104,390 ครั้ง
อุปกรณ์ในการจัดการแข่งขันฟุตซอล
อุปกรณ์ในการจัดการแข่งขันฟุตซอล
เปิดอ่าน 120,527 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
เปิดอ่าน 19,808 ครั้ง
พุทธคุณ 9
พุทธคุณ 9

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ