ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) โรงเรียนบ้านน้ำจวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3

ชื่อผู้วิจัย : นายรหัท ติ๊บแปง

ปีการศึกษา : 2562

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลคะแนนทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องทศนิยม ก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนบ้านน้ำจวง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลกเขต 3 จำนวน 10 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) เรื่อง ทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) เรื่อง ทศนิยม 3) แบบทดสอบทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT)

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1) การเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบทดสอบทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม ก่อนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) โดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) และค่าร้อยละ 2) การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) โดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) และค่าร้อยละและผู้วิจัยได้กำหนดเกณฑ์การแปลความหมายของค่าร้อยละ เมื่อเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) ตามเกณฑ์ 70/70 โดยใช้สูตร และ 4) การวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนจากแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยหาค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) แล้วแปรความหมายเป็นระดับความพึงพอใจ

ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าเฉลี่ยของคะแนนทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยคิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าของนักเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 15.70 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.33 2) คะแนนผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) เป็นรายบุคคล โดยคิดเป็นร้อยละจากเกณฑ์การประเมินที่ผ่านร้อยละ 80 ของคะแนนทั้งหมด พบว่านักเรียน 10 คน มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละที่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของนักเรียนทั้งหมด 3) นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) โดยมีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจ เท่ากับ 4.54 ซึ่งอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด 4) การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคกลุ่มเกมการแข่งขัน (TGT) เรื่อง ทศนิยม มีประสิทธิภาพ 84.33/76.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 70/70 ที่กำหนดไว้

โพสต์โดย ออรอ : [17 ก.ค. 2563 เวลา 12:16 น.]
อ่าน [4280] ไอพี : 27.55.85.58
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,594 ครั้ง
เส้นทางรัก ... เพชรา มาถึงวันนี้ที่มีแต่ ชรินทร์
เส้นทางรัก ... เพชรา มาถึงวันนี้ที่มีแต่ ชรินทร์

เปิดอ่าน 98,535 ครั้ง
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 10,283 ครั้ง
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้

เปิดอ่าน 15,495 ครั้ง
13-15 มี.ค อย่าพลาดชมปรากฏการณ์ "ดาวล้อมเดือน" ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี
13-15 มี.ค อย่าพลาดชมปรากฏการณ์ "ดาวล้อมเดือน" ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี

เปิดอ่าน 8,750 ครั้ง
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา

เปิดอ่าน 14,797 ครั้ง
นอนหลับท่าไหนดีที่สุด
นอนหลับท่าไหนดีที่สุด

เปิดอ่าน 34,908 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552

เปิดอ่าน 73,509 ครั้ง
ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย
ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย

เปิดอ่าน 13,168 ครั้ง
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ

เปิดอ่าน 204,805 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 19,493 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ
(ก.ค.ศ.)ปัจจัยด้านขวัญของข้าราชการครูปฏิบัติการสอนฯ

เปิดอ่าน 5,093 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการสรรหา คัดเลือก บรรจุ และแต่งตั้งบุคลากร
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการสรรหา คัดเลือก บรรจุ และแต่งตั้งบุคลากร

เปิดอ่าน 8,963 ครั้ง
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...

เปิดอ่าน 24,360 ครั้ง
สิงคโปร์รณรงค์เลิกบ้าคะแนนสอบ ปรามพ่อแม่อย่ากดดันลูก
สิงคโปร์รณรงค์เลิกบ้าคะแนนสอบ ปรามพ่อแม่อย่ากดดันลูก

เปิดอ่าน 19,048 ครั้ง
มาทำความรู้จัก "พริกหวาน" กันเถอะ
มาทำความรู้จัก "พริกหวาน" กันเถอะ

เปิดอ่าน 19,192 ครั้ง
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
เปิดอ่าน 10,968 ครั้ง
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค
เปิดอ่าน 24,682 ครั้ง
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
เปิดอ่าน 9,493 ครั้ง
"ผลไม้ไทย" อาหารเพื่อสุขภาพและเภสัชโภชนภัณฑ์
"ผลไม้ไทย" อาหารเพื่อสุขภาพและเภสัชโภชนภัณฑ์
เปิดอ่าน 16,767 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ