ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) เรื่อง สมรรถภาพทางกายที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา สมรรถภาพทางกาย และเจตคติต่อพลศึกษา ของ

ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) เรื่อง สมรรถภาพทางกาย

ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา สมรรถภาพทางกาย และเจตคติต่อพลศึกษา

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)

ชื่อผู้วิจัย อุดม ศรีเจริญ

โรงเรียน เทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า) เทศบาลนครยะลา

พ.ศ. 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษาของนักเรียน ระหว่างก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT)

2) เปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายของนักเรียน ระหว่างก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) 3) เปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายของนักเรียนที่ได้รับการจัด การเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) กับเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพทางกายที่โรงเรียนกำหนดให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ80 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลการประเมินสมรรถภาพทางกายตั้งแต่ระดับดีขึ้นไป และ 4) เปรียบเทียบเจตคติต่อพลศึกษาของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๕(บ้านตลาดเก่า) เทศบาลนครยะลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มกลุ่ม(Cluster Random Sampling) โดยการใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม(Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผน การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) เรื่อง สมรรถภาพทางกาย 2) แบบ ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา 3) แบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย จำนวน 5 รายการ ได้แก่ (1) ยืนกระโดดไกล (2) ลุกนั่ง 30 วินาที (3) ดันพื้น 30 วินาที (4) วิ่งเก็บของ (5) วิ่ง 50 เมตร และ 4)แบบประเมินเจตคติต่อพลศึกษาของนักเรียน เก็บรวบรวมข้อมูลจากการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที(t-test)

ผลการวิจัยพบว่า

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษาของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ

แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สมรรถภาพทางกายของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผ่านเกณฑ์การ

ทดสอบสมรรถภาพทางกายที่โรงเรียนกำหนดให้มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ80 ของนักเรียนทั้งหมดมีผลการประเมินสมรรถภาพทางกายตั้งแต่ระดับดีขึ้นไป ดังนี้ ยืนกระโดดไกล จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 92.59 ลุก-นั่ง 30 วินาที จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 96.30 ดันพื้น 30 วินาที จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 88.89 วิ่งเก็บของ จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 วิ่ง 50 เมตร จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 85.19 และเจตคติต่อพลศึกษาของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบกลุ่มเกมแข่งขัน(TGT) สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย ณัฐ : [8 ก.ค. 2563 เวลา 12:34 น.]
อ่าน [65256] ไอพี : 61.7.212.6
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,217 ครั้ง
ลายมือมีพลัง
ลายมือมีพลัง

เปิดอ่าน 21,958 ครั้ง
ดีปลี
ดีปลี

เปิดอ่าน 13,167 ครั้ง
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ

เปิดอ่าน 10,183 ครั้ง
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน

เปิดอ่าน 83,861 ครั้ง
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 83,822 ครั้ง
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี

เปิดอ่าน 20,070 ครั้ง
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566

เปิดอ่าน 22,094 ครั้ง
เรียนรู้จากนิราศ
เรียนรู้จากนิราศ

เปิดอ่าน 17,801 ครั้ง
รู้ทันดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดให้ดีก่อนรูด
รู้ทันดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดให้ดีก่อนรูด

เปิดอ่าน 14,845 ครั้ง
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน

เปิดอ่าน 101,431 ครั้ง
ทฤษฎีพัฒนาการเชาน์ปัญญาของเพียเจต์
ทฤษฎีพัฒนาการเชาน์ปัญญาของเพียเจต์

เปิดอ่าน 28,582 ครั้ง
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย

เปิดอ่าน 10,250 ครั้ง
ทำงานแบบไหน เจ้านายถึงจะปลื้ม
ทำงานแบบไหน เจ้านายถึงจะปลื้ม

เปิดอ่าน 10,472 ครั้ง
3 กุมภาพันธ์ ... วันทหารผ่านศึก
3 กุมภาพันธ์ ... วันทหารผ่านศึก

เปิดอ่าน 23,950 ครั้ง
ใช้ชีวิต Slow Life เพื่อความสุขยืนยาว ช้าแต่ชัวร์!!
ใช้ชีวิต Slow Life เพื่อความสุขยืนยาว ช้าแต่ชัวร์!!

เปิดอ่าน 17,785 ครั้ง
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ
เปิดอ่าน 31,461 ครั้ง
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยสุโขทัย
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยสุโขทัย
เปิดอ่าน 18,298 ครั้ง
รู้ไหมว่า..น้ำพริกตาแดง...ต้านมะเร็งได้
รู้ไหมว่า..น้ำพริกตาแดง...ต้านมะเร็งได้
เปิดอ่าน 14,364 ครั้ง
"มัลเบอร์รี่" ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
"มัลเบอร์รี่" ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
เปิดอ่าน 22,482 ครั้ง
การเลี้ยงไก่ไข่
การเลี้ยงไก่ไข่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ