ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา
สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์
ผู้วิจัย นางสาวเกื้อกชภรณ์ ขวัญทอง
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสถานศึกษา
โรงเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์
สังกัดเทศบาลเมืองระนอง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development)
มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ สังกัดเทศบาลเมืองระนอง 2) เพื่อสร้างรูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบโดยการประเมินตนเอง และรายงานการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report: SAR) ตามรูปแบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ ทั้งนี้ผู้วิจัยได้พัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา โดยใช้กลยุทธ์ในการพัฒนา คือ การประชุมแบบมีส่วนร่วม และการนิเทศภายใน ตามกระบวนการพัฒนาระบบ (The System Development Life Cycle : SDLC) คือ การค้นหาระบบ (Systems Investigation) การวิเคราะห์ระบบ (Systems Analysis) การออกแบบระบบ (Systems Design) การนำระบบไปใช้ (Systems Implementation) การบำรุงดูแลรักษาและทบทวนระบบ (Systems Maintenance and Review) โดยใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน (Planning) การปฏิบัติตามแผน (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มผู้ร่วมวิจัยและผู้ให้ข้อมูล จำนวน 17 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย ครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษา จำนวน 2 คน และครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน จำนวน 12 คน วิทยากรผู้มีประสบการณ์ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา จำนวน 2 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 365 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 54 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 192 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 119 คน ส่วนการศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 54 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 192 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 119 คน ได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified random sampling) คำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างจากสูตร ของทาโร ยามาเน ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยคือ ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติการ ได้แก่ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและปัญหา 2) แบบบันทึกการประชุมแบบมีส่วนร่วม เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ 1) แบบสอบถามผลการปฏิบัติงาน 2) แบบบันทึกการนิเทศผลการดำเนินงาน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ความคิดเห็นของผู้ใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ เป็นแบบมาตราส่วน ประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้รูปแบบ สำหรับผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 45 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง 0.25 0.81 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 2) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้รูปแบบ สำหรับผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียน จำนวน 25 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.21 0.83 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลศึกษาวิเคราะห์องค์กร (SWOT Analysis) ของโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ สังกัดเทศบาลเมืองระนอง โดยการวิเคราะห์ปัจจัยภายใน (จุดแข็ง จุดอ่อน) และปัจจัยภายนอก (โอกาส และอุปสรรค) อยู่ในลักษณะ เอื้อและแข็ง และการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน จุดเด่น คือ ผู้เรียนมีทักษะความสามารถทั้งด้านวิชาพื้นฐาน ด้านอาชีพศึกษา มีเจตคติที่ดีที่จะศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จุดที่ควรพัฒนา คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนควรบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ส่วนผลสัมฤทธิ์ระดับชาติของผู้เรียนควรได้ตามมาตรฐานสากล มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ จุดเด่น คือ ผู้บริหารมีภาวะผู้นำ มีทักษะความสามารถในการบริหารแบบมีส่วนร่วม เป็นแบบอย่างได้ สถานศึกษามีความโดดเด่นด้านแหล่งเรียนรู้ จุดที่ควรพัฒนา คือ ควรพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จุดเด่น คือ ครูมีทักษะความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะพื้นฐานและทักษะชีวิต จุดที่ควรพัฒนา คือ ครูต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพเป็นรายบุคคล มีการวัดประเมินผลตามสภาพจริง โดยการใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย
2. รูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ มีองค์ประกอบ คือ 1) ความเป็นมาและความสำคัญ 2) หลักการ 3) จุดมุ่งหมาย 4) กระบวนการในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา และ 5) การวัดและประเมินผล
โดยใช้การมีส่วนร่วม คือ การวางแผนแบบมีส่วนร่วม (Plan) การปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Do)
การตรวจสอบผลการดำเนินงาน (Check) การพัฒนาปรับปรุง (Act) และการสร้างความยั่งยืน
แบบมีส่วนร่วม (Sustainability) มีผลการประเมินความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด
( = 4.68, S.D. = 0.50)
3. ผลการประเมินตนเอง และรายงานการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report: SAR) ตามรูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดีเลิศ ทุกมาตรฐาน
4. ความคิดเห็นของผู้ใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สำหรับโรงเรียนเทศบาลบ้านเขานิเวศน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.55,
S.D. = 0.53)