ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ทำนองเพลงไทยประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านบทอาขยาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
ชื่อผู้วิจัย นางสาว สุพิชญา ชูสกุล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด โรงเรียนเทศบาล ๓ (ชาญวิทยา) กองการศึกษาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
กรมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
บทคัดย่อ
รายงานฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) หาประสิทธิภาพของการใช้ทำนองเพลงไทยประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3(ชาญวิทยา) กองการศึกษาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยการใช้ทำนองเพลงไทยประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) กองการศึกษาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) กองการศึกษาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จำนวน 30 คนใช้การสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยการจับสลาก ซึ่งมีห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม จากจำนวน 4 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบการใช้ทำนองเพลงไทยประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านบทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ทักษะ คือ ทักษะที่ 1 นิราศภูเขาทอง ทักษะที่ 2 วัฒนธรรมไทย ทักษะที่ 3 อิศรญาณภาษิต ทักษะที่ 4 บทเสภาสามัคคีเสวก และทักษะที่ 5 บทโคลงโลกนิติ
ผลการวิจัย แบบการใช้ทำนองเพลงไทยประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า มีประสิทธิภาพ ดังนี้ ทักษะที่ 1นิราศภูเขาทอง มีค่าประสิทธิภาพ 86.14/86.83 ทักษะที่ 2 วัฒนธรรมไทย มีค่าประสิทธิภาพ 82.91/84.00 ทักษะที่ 3 อิศรญาณภาษิต มีค่าประสิทธิภาพ 83.05/84.16 ทักษะที่ 4 บทเสภาสามัคคีเสวก มีค่าประสิทธิภาพ 81.5681.83 และทักษะที่ 5 บทโคลงโลกนิติ มีค่าประสิทธิภาพ 82.12/82.16 ซึ่งทั้ง 5 ทักษะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้วยแบบการใช้ทำนองเพลงไทยประกอบการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านบทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05