บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมอาชีพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของโรงเรียนบ้านเปร็ดใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการวิจัยในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมอาชีพการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของโรงเรียนบ้านเปร็ดใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา-ประถมศึกษาตราด 2) เพื่อดำเนินการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสู่การส่งเสริมอาชีพและ การท่องเที่ยว โดยใช้เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม และ 3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนา ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมอาชีพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของโรงเรียนบ้านเปร็ดใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนในภาคเรียนที่ 1 และ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านเปร็ดใน จำนวน 59 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสังเกต การสัมภาษณ์ และ การสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพปัจจุบันและปัญหาการวิจัยในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมอาชีพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของโรงเรียนบ้านเปร็ดใน สรุปได้ว่า ป่าชายเลนชุมชนบ้านเปร็ดในในอดีต ได้ประสบปัญหาถูกทำลายจากนายทุนเลี้ยงกุ้ง ทางราชการเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ ชุมชนได้รวมตัวกันต่อสู้ ภายหลังได้รับการสนับสนุนจากนักการเมือง และหน่วยราชการต่าง ๆ แก้ปัญหาการบุกรุก ป่าชายเลนได้ จากนั้นชุมชนได้รวมตัวกันก่อตั้ง กลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน วางแผนพัฒนา ออกกฎระเบียบของชุมชน โดยได้รับการส่งเสริมจากหน่วยราชการ ที่เกี่ยวข้อง และศูนย์ฝึกอบรมวนศาสตร์ชุมชนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (รีครอฟ) ทำให้การอนุรักษ์และพัฒนา ป่าชายเลนมีระบบชัดเจน ต่อมาได้รับการส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ส่งเสริมการผลิตสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านอาหาร ผ้ามัดย้อม การบริการบ้านพักโฮมสเตย์ การสร้างมัคคุเทศก์น้อยนำเที่ยว และอื่น ๆ
โรงเรียนบ้านเปร็ดใน มีบทบาทในการให้บริการการศึกษาขั้นพื้นฐานกับบุตรหลาน ชาวเปร็ดใน ตามหลักการทางวิชาการแล้ว งานอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลนต้องเป็นส่วนหนึ่งของ หลักสูตรท้องถิ่น หรือตามหลักการ การจัดการเรียนการสอนแบบ teach less learn more หรือ
การเรียนรู้โดยการปฏิบัติตามทฤษฎี Constructivism ซึ่งโรงเรียนน่าจะต้องจัดกิจกรรมบางอย่างสนับสนุนชุมชนและสร้างทายาทการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้กับชุมชนในรุ่นต่อไป โดยกิจกรรมที่จัดต้องตอบสนอง ปัญหาการอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลน ตอบสนองต่อปัญหาความเป็นอยู่ตาม หลักเศรษฐกิจพอเพียง และตอบสนองต่อปัญหาการสร้างทักษะการบริการการท่องเที่ยวชุมชน กิจกรรมที่จะตอบสนองปัญหาเหล่านี้ ได้แก่
1) กิจกรรมการประกอบอาหารพื้นบ้าน และเครื่องดื่มสมุนไพรจากป่าชายเลน บ้านเปร็ดใน เพื่อสร้างอาหารและเครื่องดื่มตามหลักการของ OTOP และดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยว
2) กิจกรรมงานบริการและต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวในด้านการบริการอาหาร เครื่องดื่ม การแสดงบนเวที ทั้งดนตรีและนาฏศิลป์
3) กิจกรรมนักสื่อความหมายท้องถิ่น (มัคคุเทศก์น้อย) เพื่อให้นักเรียนทำหน้าที่เป็นนักสื่อความหมายท้องถิ่น (มัคุเทศก์น้อย) สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรการท่องเที่ยว ในป่าชายเลนบ้านเปร็ดในได้อย่างมีประสิทธิผล
4) กิจกรรมการทำผ้ามัดย้อมจากพรรณไม้ในป่าชายเลน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าเอกลักษณ์ของชุมชน เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและหารายได้ให้กับชุมชน
5) กิจกรรมการซ่อมจักรยาน ซึ่งจัดไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้เช่าขี่ชมป่าชายเลน เป็นการสร้างอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์
2. การพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสู่การส่งเสริมอาชีพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของโรงเรียนบ้านเปร็ดใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัย- เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ดำเนินการ ดังนี้
2.1 อบรมพื้นฐานการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการระหว่างวันที่ 24 -28 เมษายน 2560 โดยแบ่งอบรมผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรม 5 กิจกรรม วันละกิจกรรม เนื้อหาสาระที่อบรมประกอบด้วย 1) ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการวิจัยเชิง-ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 2) ทักษะการสังเกต การปฏิบัติงานแบบมีส่วนร่วม 3) ทักษะการประเมินพฤติกรรมการมีส่วนร่วม 4) ทักษะการประเมินความเที่ยงตรงของผลการประเมิน 5) ทักษะการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปผล
2.2 กระบวนการอบรม ในแต่ละกิจกรรม ดำเนินการตามแนวคิดของเคมมิส และแมคแท็กการ์ด (Kemmis & McTaggart, 1988) ซึ่งกำหนดกระบวนการวิจัยไว้เป็นวงจร ๆ ละ 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน (Planning) การดำเนินการตามแผน (Action) การสังเกตผล (Observation) และการสะท้อนผลทบทวน (Reflection) ผู้วิจัยกำหนดให้แต่ละวงจรเป็นหนึ่งรอบของการวิจัย แบ่งเป็น 4 วงจรหรือ 4 รอบ คือ
รอบที่ 1 ดำเนินการระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 - 14 กรกฎาคม 2560 เวลา 276 ชั่วโมง
รอบที่ 2 ดำเนินการระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 - 29 กันยายน 2560 เวลา 236 ชั่วโมง
รอบที่ 3 ดำเนินการระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม 2560 - 15 ธันวาคม 2560 เวลา 230 ชั่วโมง
รอบที่ 4 ดำเนินการระหว่างวันที่ 18 ธันวาคม 2560 - 9 มีนาคม 2561 เวลา 246 ชั่วโมง
โดยในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ อบรมเวลา 14.00 -16.00 น. วันละ 2 ชั่วโมง วันเสาร์ อาทิตย์ อบรมเวลา 09.00 12.00 น. และ 13.00 16.00 น. วันละ 6 ชั่วโมง ลักษณะการจัด มีการยืดหยุ่น คือ บางวันไม่มีการอบรมหากมีเหตุจำเป็น
การอบรมจัดต่อเนื่องกันไปจนจบหลักสูตรของแต่ละกิจกรรม เพื่อความสะดวก ในการเชิญวิทยากร การจัดตั้งอุปกรณ์ และความต่อเนื่องของความรู้และทักษะในแต่ละกิจกรรม เริ่มจากกิจกรรมการประกอบอาหารพื้นบ้าน และทำเครื่องดื่มสมุนไพรจากป่าชายเลน กิจกรรมงานบริการและการต้อนรับ กิจกรรมนักสื่อความหมายท้องถิ่น (มัคคุเทศก์น้อย) กิจกรรมการทำผ้ามัดย้อมจากพรรณไม้ป่าชายเลน และกิจกรรมการซ่อมจักรยาน ตามลำดับ รายละเอียดของแต่ละกิจกรรม แต่ละรอบ ประกอบด้วย
1) กิจกรรมการประกอบอาหารพื้นบ้านและทำเครื่องดื่มสมุนไพรจาก ป่าชายเลน ใช้เวลาอบรม 30 ชั่วโมง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 7 เรื่อง คือ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอาหารพื้นบ้านและเครื่องดื่มสมุนไพรป่าชายเลน ประโยชน์และสรรพคุณพรรณไม้สมุนไพร
ป่าชายเลน วัสดุอุปกรณ์งานครัว การจัดและตกแต่งอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องปรุงและส่วนผสม การปรุงและการบริการอาหารและเครื่องดื่ม และการทำบัญชีอย่างง่าย
2) กิจกรรมงานบริการและการต้อนรับ ใช้เวลาอบรม 30 ชั่วโมง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 6 เรื่อง คือ ความรู้ทั่วไปของการบริการต้อนรับ การจัดเตรียมสถานที่ การบริการอาหารและเครื่องดื่ม พิธีการต้อนรับ (กำหนดการ พิธีกร การแสดง ดนตรี นาฏศิลป์) บุคลิกภาพ และการทำบัญชีอย่างง่าย
3) กิจกรรมนักสื่อความหมายท้องถิ่น (มัคคุเทศก์น้อย)ใช้เวลาอบรม 30 ชั่วโมง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 6 เรื่อง คือ หลักการท่องเที่ยว ทรัพยากรการท่องเที่ยวของท้องถิ่น พืชในป่าชายเลน (เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ระบบนิเวศ สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากป่า) การออกแบบการท่องเที่ยว การเป็นนักสื่อความหมาย (บุคลิกภาพ การสร้างแรงจูงใจ อารมณ์) และการทำบัญชีอย่างง่าย
4) กิจกรรมการทำผ้ามัดย้อมจากพรรณไม้ป่าชายเลน ใช้เวลาอบรม 20 ชั่วโมง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 5 เรื่อง คือ ประโยชน์และความสำคัญของผ้ามัดย้อม การทำผ้ามัดย้อมจากเปลือกโกงกาง เปลือกโปรงแดง และเปลือกฝาด การมัดผ้าและการรักษาสีให้คงทน การเพิ่มมูลค่าผ้ามัดย้อม และการทำบัญชี
5) กิจกรรมการซ่อมจักรยาน ใช้เวลาอบรม 30 ชั่วโมง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 3 เรื่อง คือ ช่องทางการประกอบอาชีพซ่อมจักรยาน ทักษะการซ่อมจักรยาน (โครงสร้างรถจักรยาน หลักการทำงานของส่วนประกอบจักรยาน การถอดประกอบจักรยาน การใช้อุปกรณ์ถอดประกอบเพื่อซ่อมจักรยาน) การคิดราคาต้นทุนกำไร
รวม 5 กิจกรรม ใช้เวลารวมแต่ละรอบ 140 ชั่วโมง
3. ผลการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมอาชีพ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของโรงเรียนบ้านเปร็ดใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด ปรากฏผล ดังนี้
1. นักเรียนมีความรู้และทักษะในงานอาชีพ จากกิจกรรมการประกอบอาหารพื้นบ้านและทำเครื่องดื่มสมุนไพรจากป่าชายเลน และกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมจากพรรณไม้ป่าชายเลน
2. นักเรียนมีความรู้และทักษะในการส่งเสริมการท่องเที่ยว จากกิจกรรมงานบริการและการต้อนรับ กิจกรรมนักสื่อความหมายท้องถิ่น (มัคคุเทศก์น้อย) และกิจกรรมการซ่อมจักรยาน
3. นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 8 ประการ คือ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และ มีจิตสาธารณะ จากการร่วมกิจกรรมทั้ง 5 กิจกรรม
4.นักเรียนมีคุณลักษณะ 5 ประการตามจุดเน้นโรงเรียนสุจริต คือ มีทักษะกระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ จากการร่วมกิจกรรมทั้ง 5 กิจกรรม