ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน
เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา พุทธิมา นันทะกมล
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 และ 3) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3.2) เพื่อศึกษาระดับความสามารถในการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียน หลังการใช้รูปแบบเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3.3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรียนตาลชุมพิทยาคม อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จำนวน 30 คน ใช้วิธีดำเนินการวิจัยใน ลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (µ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่าก
ผลการวิจัยพบว่าก
1. รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีชื่อว่า 4P Model มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การเตรียมความพร้อม (Preparation) 2) การมีส่วนร่วมกับชุมชน (Participation with Community) 3) กระบวนการจัดทำโครงงาน (Project process) ซึ่งประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การคิดและเลือกหัวข้อเรื่องโครงงาน ขั้นที่ 2 การวางแผนโครงงานวิทยาศาสตร์ ขั้นที่ 3 การปฏิบัติการโครงงาน ขั้นที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน ขั้นที่ 5 การนำเสนอโครงงาน และ 4) การนำเสนอผลงานและการประเมินผล (Presentation and Evaluation)
2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ที่ตั้งไว้คือ มีค่าประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยรวมเท่ากับ 82.93/81.17
3. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ดังนี้
3.1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน คือ คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนมีค่าเท่ากับ 7.63 คะแนน และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 16.23 คะแนน มีผลต่างของคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.60 คะแนน คิดเป็นร้อยละของคะแนนที่สูงขึ้นเท่ากับ ร้อยละ 43.00 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3.2. ระดับความสามารถในการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียน หลังการใช้รูปแบบเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเฉลี่ยรวมอยู่ ในระดับดี
3.3. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบเรียนรู้โดยใช้ชุมชนและโครงงานเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเฉลี่ยรวมอยู่ ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง (µ = 4.69, = 0.58)