|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิค การสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษาโดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ห้องเรียน Mini English Program ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 18 คน โรงเรียนเทศบาล 1 (ทุ่งฟ้าบดราษฎร์บำรุง) สังกัดเทศบาลตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 21 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยใช้ดัชนีความสอดคล้องของความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ หาประสิทธิภาพของการใช้การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะ หาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยวิธี E1/E2 หาความเชื่อมั่นของแบบวัดความพึงพอใจด้วยวิธีการหาความคงที่ภายในจากสูตรแอลฟาของครอนบาค หาความยากง่ายของแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยเทคนิค 25% ของ จุง เตห์ ฟาง หาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สารบริสุทธิ์(Pure substance) ด้วยสูตร KR-20 เปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบที (t-test) และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัด การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ค่าเฉลี่ย () และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 84.60/86.85
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การจัด การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา โดยใช้เทคนิคการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ 5 ขั้น (5Es) และเทคนิคการสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา (CLIL) เรื่อง สารบริสุทธิ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.50
คำสำคัญ : วิทยาศาสตร์ในรูปแบบสองภาษา สอนวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การสอนภาษาแบบบูรณาการเนื้อหา สารบริสุทธิ์
|
โพสต์โดย Pathinee : [6 มิ.ย. 2563 เวลา 20:56 น.] อ่าน [5152] ไอพี : 184.22.177.253
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 98,097 ครั้ง
| เปิดอ่าน 552,781 ครั้ง
| เปิดอ่าน 52,812 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,117 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,862 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,171 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,594 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,416 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,532 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,351 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,554 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,883 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,239 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,114 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 19,328 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,584 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,075 ครั้ง
| เปิดอ่าน 72,080 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,631 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|