ชื่อผู้วิจัย นางสาวถนิมนันท์ พงษ์สุภา
สถานศึกษา โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ปีที่ทำการวิจัย พ.ศ. 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น
เมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและประเมินความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 40 คน ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ได้มาด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง แบบกลุ่ม (Cluster Ramdom Sampling) โดยจัดห้องเรียนของโรงเรียนคละความสามารถของผู้เรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบวิเคราะห์เอกสารข้อมูลพื้นฐาน แบบประเมินคุณภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบตรวจสอบ ความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้และความสอดคล้องของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความพึงพอใจ แบบวัดความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ แบบประเมินคุณลักษณะของผู้ที่มี การอ่านเชิงวิเคราะห์ แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหาร และครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบประเมินคุณภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis ) วิเคราะห์เปรียบเทียบ โดยการทดสอบค่า ที (t-test dependent) สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สามารถสรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ ได้ดังนี้
1.ผู้บริหาร ครู และนักเรียนมีความเห็นว่าจำเป็นและต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
2. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก คือ 1) ทฤษฎี หลักการหรือแนวคิดพื้นฐานของการเรียนการสอน 2)วัตถุประสงค์ 3) กิจกรรมการเรียนรู้ 4) แหล่งการเรียนรู้
5) การประเมินการเรียนการสอน 6) เงื่อนไขของการนำรูปแบบไปใช้ (ระบบสังคม ระบบสนับสนุน และหลักการตอบสนอง) โดยในองค์ประกอบที่ 3 กิจกรรมการเรียนรู้ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ขั้นกระตุ้นการอ่าน ขั้นสำรวจ ขั้นระดมสมองและไตร่ตรอง ขั้นอธิบายด้วยเหตุผล และขั้นสรุปและสะท้อนความคิด
3. หลังการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม
เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ ได้ผลการวิจัยดังนี้
1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น โดยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นเมืองนครพนม เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมอยู่ในระดับมาก
3) ความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน ก่อนและหลัง การทดลองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยคะแนนเฉลี่ยความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียน จำแนกเป็นรายด้าน พบว่า หลังการทดลองมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกด้าน
4) การประเมินคุณลักษณะของผู้ที่มีการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยภาพรวม พบว่าหลังการทดลองนักเรียนมีคุณลักษณะของผู้ที่มีการอ่านเชิงวิเคราะห์อยู่ในระดับสูง
4. ระดับความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องต่อรูปแบบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น โดยภาพรวมทั้งด้านรูปแบบของกิจกรรมการเรียนการสอนด้านเนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอนและด้านความพึงพอใจ มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับความเหมาะสมมาก