ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน

เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นายอัครวุฒิ บุญเติม ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนสีคิ้วหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ปีที่พิมพ์ 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัด

การเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ 3.1) เพื่อหาประสิทธิภาพด้านกระบวนการและด้านผลลัพธ์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3.3) เพื่อศึกษาความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ 4.1) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในด้านกระบวนการ 4.2) ศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในด้านผลผลิตแหล่งข้อมูล การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ประกอบด้วยเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และแหล่งข้อมูลการพัฒนารูปแบบประกอบด้วย การวิเคราะห์ สังเคราะห์เอกสาร การประชุมกลุ่มย่อย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ใน การทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น มีผลการประเมินโดยรวมเฉลี่ย เท่ากับ 4.657 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.08 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สาระการวัด เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.52 - 0.83 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.91 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.20 - 0.70 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.92 4) แบบสอบถามความภาคภูมิใจในท้องถิ่น จำนวน 10 ข้อ 5) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้(ด้านกระบวนการ) จำนวน 20 ข้อ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้(ด้านผลผลิต) จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการพรรณนาวิเคราะห์

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากการศึกษาวิเคราะห์เอกสาร ข้อมูลจาการสนทนากลุ่มกับครูที่ปฏิบัติการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เนื้อหา การสอนในสาระการวัด เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความภาคภูมิใจในท้องถิ่น

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบคือ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) สาระหลักเป็นส่วนประกอบที่ต้องจัดให้แก่ผู้เรียน 5) ระบบสังคม 6) หลักการตอบสนอง 7) สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอนของรูปแบบ 8) เงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้ โดยประยุกต์ใช้แนวคิดทฤษฎีสนับสนุน ได้แก่ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist Theory) วิธีการแก้ปัญหา แนวคิดการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Approach) และจิตวิทยาการเรียนรู้กลุ่มเกสตัลท์ (Gestalt Learning Psychology) ทั้งนี้ได้สังเคราะห์ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้น ประกอบด้วย 1) ขั้นเริ่มต้นเตรียมความพร้อมในการเรียน (Attention Step : A 2) ขั้นให้ความรู้ (Knowledge Step : K) 3) ขั้นลงมือปฏิบัติ (Action Step : A 4) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Workshop Step : W 5) ขั้นนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ (Use to benefit Step : U) 6) ขั้นผลรวมความรู้เพื่อสร้างชิ้นงาน (Total for constructing Step : T)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า

3.1 ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เมื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์จากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าเท่ากับ 89.27/82.08 และเมื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพผลลัพธ์จากคะแนนทักษะการบวนการทางคณิตศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 89.27/82.08

3.2 ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6955 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น

0.6955 หรือคิดเป็นร้อยละ 69.55 และเมื่อวัดทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7410 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7410 หรือคิดเป็นร้อยละ74.10

3.3 ความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของนักเรียน หลังจากการสอนด้วยรูปแบบการจัด

การเรียนรู้โดยแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และ ความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เฉลี่ยโดยรวม พบว่า นักเรียนมีความภาคภูมิใจในท้องถิ่น อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.66, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.19)

4. ผลการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า

4.1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้านกระบวนการ ภาพรวม พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.72, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.46)

4.2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้

แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อสร้างเสริมทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และความภาคภูมิใจในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้านผลผลิต ภาพรวม พบว่าผู้ปกครองมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย= 4.67 , ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.16)

ผลการปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้จากข้อเสนอแนะของนักเรียน คือ กิจกรรมกลางแจ้งในการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน ที่ต้องอาศัยพละกำลัง ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและความเหมาะสมกับสุขภาพร่างกายของนักเรียนในการปฏิบัติกิจกรรม และควรให้ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้โดยบันทึกภาพเคลื่อนไหวของกิจกรรมมาเป็นสื่อการสอน

โพสต์โดย foon_rin : [1 มิ.ย. 2563 เวลา 20:09 น.]
อ่าน [4841] ไอพี : 223.24.169.93
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,300 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'

เปิดอ่าน 59,871 ครั้ง
เหตุใดน้ำแข็ง จึงลอยอยู่บนน้ำได้
เหตุใดน้ำแข็ง จึงลอยอยู่บนน้ำได้

เปิดอ่าน 20,582 ครั้ง
ดื่มเบียร์ทุกวัน ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้
ดื่มเบียร์ทุกวัน ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้

เปิดอ่าน 26,683 ครั้ง
Computing Science : วิชาบังคับสำหรับนักเรียน ป.1 ไทย
Computing Science : วิชาบังคับสำหรับนักเรียน ป.1 ไทย

เปิดอ่าน 51,724 ครั้ง
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลา
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลา

เปิดอ่าน 56,685 ครั้ง
กินแอปเปิ้ล ลดไข้
กินแอปเปิ้ล ลดไข้

เปิดอ่าน 37,837 ครั้ง
กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579)
กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579)

เปิดอ่าน 11,352 ครั้ง
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ

เปิดอ่าน 12,066 ครั้ง
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ

เปิดอ่าน 41,750 ครั้ง
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ

เปิดอ่าน 15,452 ครั้ง
 16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล
16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล

เปิดอ่าน 16,234 ครั้ง
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%

เปิดอ่าน 36,175 ครั้ง
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก
กำจัด "กลิ่นปาก" ให้สิ้นซาก

เปิดอ่าน 10,934 ครั้ง
Student Perceptions of Selected Technology Student Association Activit
Student Perceptions of Selected Technology Student Association Activit

เปิดอ่าน 27,545 ครั้ง
ระบบสี Subtractive
ระบบสี Subtractive

เปิดอ่าน 2,744 ครั้ง
ยางนา
ยางนา
เปิดอ่าน 11,853 ครั้ง
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
เปิดอ่าน 31,999 ครั้ง
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
เปิดอ่าน 58,392 ครั้ง
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference "พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560"
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference "พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560"
เปิดอ่าน 12,608 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ