ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการจัดประสบการณ์ก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย และ3)เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลตำบลเวียงเทิง จำนวน 20 คน ได้มาโดยการการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster random sampling) ซึ่งนักเรียนในแต่ละห้องมีความหลากหลายและมีความแตกต่างในทำนองเดียวกันแต่ละห้องมีความคล้ายคลึงกัน ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โดยกำหนดการเรียนรู้จำนวนทั้งสิ้น 35 ครั้ง ครั้งละ 50 นาที

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย คู่มือการใช้การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย และ แบบประเมินชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย ก่อนจัดประสบการณ์และหลังจัดประสบการณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ ค่าร้อยละ (Percentage)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ได้ประสิทธิภาพชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวนทั้งสิ้น 8 ชุด นักเรียนทำแบบประเมินชุดฝึกได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 88.90 คิดเป็นร้อยละ 84.67 หลังการใช้ชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับนักเรียนเด็กปฐมวัย นักเรียนทำแบบทดสอบหลังการใช้ชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 17.25 คิดเป็นร้อยละ 86.25 จึงถือได้ว่าชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.67/86.25 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพและผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. ผลการเปรียบเทียบพัฒนาการด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย หลังจัดประสบการณ์สูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนจัดประสบการณ์ ได้คะแนนพัฒนา (D) เฉลี่ย 7.65 คิดเป็น ร้อยละ 38.25 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยระหว่างการทดสอบชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา ก่อนจัดประสบการณ์และการทดสอบหลังจัดประสบการณ์ ปรากฏว่าคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา ก่อนจัดประสบการณ์ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 9.60 คิดเป็นร้อยละ 48.00 และคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา หลังจัดประสบการณ์ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 17.25 คิดเป็นร้อยละ 86.25 เมื่อนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนจัดประสบการณ์และคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังจัดประสบการณ์ โดยคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา หลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ซึ่งผลการศึกษาเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ค่าดัชนีประสิทธิผล ของการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย มีค่าเท่ากับ 0.7356 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7356 คิดเป็นร้อยละ 73.56

สรุปได้ว่าการสอนโดยการใช้ชุดฝึกความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย แสดงให้เห็นว่าความพร้อมด้านสติปัญญา ของเด็กปฐมวัย พัฒนาและสูงขึ้น

โพสต์โดย ครูพัช : [28 พ.ค. 2563 เวลา 17:31 น.]
อ่าน [4888] ไอพี : 223.206.247.162
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,767 ครั้ง
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”

เปิดอ่าน 8,339 ครั้ง
"รื้อโรงเรียน" ข้อถกเถียงเชิงนโยบายกับเหตุผลทางภูมิศาสตร์ (ชมคลิป)
"รื้อโรงเรียน" ข้อถกเถียงเชิงนโยบายกับเหตุผลทางภูมิศาสตร์ (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 23,354 ครั้ง
ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ ลูกครึ่งไทย-จีน..ทนหวัดนก
ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ ลูกครึ่งไทย-จีน..ทนหวัดนก

เปิดอ่าน 12,721 ครั้ง
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี

เปิดอ่าน 24,748 ครั้ง
ลายมือคนสันโดษ
ลายมือคนสันโดษ

เปิดอ่าน 9,970 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)

เปิดอ่าน 15,682 ครั้ง
13-15 มี.ค อย่าพลาดชมปรากฏการณ์ "ดาวล้อมเดือน" ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี
13-15 มี.ค อย่าพลาดชมปรากฏการณ์ "ดาวล้อมเดือน" ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี

เปิดอ่าน 21,850 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 10,621 ครั้ง
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล

เปิดอ่าน 8,524 ครั้ง
ประวัตินาฏศิลป์ไทย
ประวัตินาฏศิลป์ไทย

เปิดอ่าน 24,201 ครั้ง
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"

เปิดอ่าน 34,557 ครั้ง
ศิลปะการเห่เรือ
ศิลปะการเห่เรือ

เปิดอ่าน 13,650 ครั้ง
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน

เปิดอ่าน 13,227 ครั้ง
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้

เปิดอ่าน 14,927 ครั้ง
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว

เปิดอ่าน 8,568 ครั้ง
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย
หนุ่มดวงแข็งที่สุดในสามโลก รถตกตึก ยังลุกขึ้นมาเดินเฉย
เปิดอ่าน 2,804 ครั้ง
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดอ่าน 19,168 ครั้ง
นวดแก้ปวดไม่ใช้มือ ศาสตร์บำบัดล้านนา
นวดแก้ปวดไม่ใช้มือ ศาสตร์บำบัดล้านนา
เปิดอ่าน 18,603 ครั้ง
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
เปิดอ่าน 17,058 ครั้ง
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า
รวมผักกินยากแสนอร่อยแต่เปี่ยมคุณค่า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ