การวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ตามรูปแบบการสอนทฤษฎีไวกอทสกีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์
เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามทฤษฎีไวกอทสกีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ (E1/E2) ตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามทฤษฎีไวกอทสกีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนจากการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ
การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามทฤษฎีไวกอทสกีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามทฤษฎีไวกอทสกี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนศรีเสมาวิทยาเสริม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้หาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการสอนภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามรูปแบบการสอนทฤษฎีไวกอทสกีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ เท่ากับ 82.53/81.60 ซึ่งแสดงว่าแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามรูปแบบการสอนทฤษฎีไวกอทสกีมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามรูปแบบทฤษฎีไวกอทสกี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 0.7221 หรือนักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 72.21 ซึ่งมีค่าดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้จริง
3. คะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนจากการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการสอนภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามรูปแบบการสอนทฤษฎีไวกอทสกีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามทฤษฎีไวกอทสกี โดยรวมนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาอังกฤษ ตามรูปแบบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจตามทฤษฎีไวกอทสกีอยู่ในระดับมาก ( = 2.56, S.D. = 0.57)