ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์
ผู้วิจัย นางสาวเรือนแก้ว วรแสน
โรงเรียน โรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้หลังจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ 3) ศึกษาความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ หลังจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4) เปรียบเทียบความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์หลังจัดประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ และหาค่าดัชนีประสิทธิผลหลังจัดประสบการณ์ การวิจัยครั้งนี้ได้ทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 20 คน ซึ่งผู้วิจัยได้เลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้วิธีการทดลองโดยการประเมินพัฒนา การทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนจัดประสบการณ์ จัดประสบการณ์เป็นหน่วยการเรียนรู้ จำนวน 50 แผนการจัดประสบการณ์ ซึ่งแผนการจัดประสบการณ์มีคุณภาพโดยรวมเท่ากับ ( x̄ = 4.89, S.D. = 0.15) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ จำนวน 10 ชุด มีคุณภาพโดยรวมเท่ากับ ( x̄ = 4.82, S.D. = 0.31) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด แบบประเมินพัฒนาการทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 20 ข้อ ค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.40 0.76 ค่าอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.46 0.82 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ ( ) เท่ากับ 0.89 และแบบประเมินพัฒนาการทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ประจำหน่วยการเรียนรู้ จำนวน 10 หน่วย ๆ ละ 5 ข้อ ค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.43 0.80 ค่าอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.48 0.84 และค่าความเชื่อมั่น ( ) ทั้ง 10 ฉบับ เท่ากับ 0.64, 0.72, 0.78, 0.66, 0.64, 0.68, 0.64, 0.72, 0.62 และ 0.62 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบผลการพัฒนาความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ระหว่างก่อนและหลังจัดประสบการณ์โดยใช้สถิติ t-test แบบ Dependent
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ ที่สร้างขึ้นเท่ากับ 96.56/96.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ มีพฤติกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 97.58 และหลังจัดประสบการณ์ทุกหน่วยการเรียนรู้มีผลการประเมินพฤติกรรม การเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ มีความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 96.56 และหลังจัดประสบการณ์ทุกหน่วยการเรียนรู้มีผลการประเมินความพร้อมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์อยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการเปรียบเทียบพัฒนาความพร้อมทักษะทางคณิตศาสตร์ ชั้นอนุบาลปีที่ 3
จากการจัดประสบการณ์ โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านความสามารถในการนับจำนวน ด้านความสามารถในการรู้ค่าจำนวน ด้านความสามารถในการเรียงลำดับจำนวน และด้านความสามารถในการเปรียบเทียบจำนวน พบว่า หลังจัดประสบการณ์มีความพร้อมทักษะทางคณิตศาสตร์ สูงกว่าก่อนจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในทุกด้าน และมีค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ด้านความพร้อมทักษะทางคณิตศาสตร์เท่ากับ 0.9273 คิดเป็นร้อยละ 92.73
โดยสรุป การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เหมาะสม ครูที่จัดประสบการณ์ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ได้นำไปใช้ จัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนระดับปฐมวัยเกิดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และเป็นการเตรียมความพร้อมด้านสติปัญญาให้กับเด็กได้อย่างเต็มศักยภาพ