ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนช

การพัฒนาชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อสร้าง และหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 85/85 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังโดยการใช้ชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาด้านทักษะการพูด ของนักเรียนหลังจากใช้วิธีการสอนด้วยชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยการพัฒนาชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้รูปแบบการศึกษา การวิจัยและพัฒนา ( Research and Development ) การดำเนินการวิจัยมี 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) : ขั้นการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) : ขั้นการออกแบบและพัฒนาชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) (Design and Development : D and D) ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) : ขั้นการทดลองใช้รูปแบบชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) (Implementation : I) และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) : ขั้นการประเมินผล รูปแบบชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) (Evaluation : E) ขั้นตอนที่ 5 การวิจัย ( Research : R3 ) การประเมินประสิทธิผลของต้นแบบชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) ประชากรที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านในสอย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) ชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 ข้อ และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test

ผลการศึกษา

1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 2 หน่วยการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ E1 และ E2 = 86.30 / 87.95

2. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังโดยการใช้ชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละความก้าวหน้า เท่ากับ 42.44 โดยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 27.31 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 45.51 และผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 52.77 คิดเป็นร้อยละ 87.95

3. ผลการศึกษาการพัฒนาด้านทักษะการพูด ของนักเรียนหลังจากใช้วิธีการสอนด้วยชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละความก้าวหน้า เท่ากับ 44.20 และผลการพัฒนาด้านทักษะการพูดโดยมีคะแนนเฉลี่ย ทั้งสองด้านพบว่า ด้านการพูดเล่าเรื่อง คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 16.62 และหลังเรียนเท่ากัน 33.29 ผลการเปรียบเทียบเท่ากับ 26.016 และด้านการสัมภาษณ์คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 6.88 และหลังเรียนเท่ากัน 16.73 ผลการเปรียบเทียบเท่ากับ 46.309 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนสอบทั้งสอบสองครั้งพบว่าคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีชุดกิจกรรมการฝึกเล่าเรื่องตนเอง ( Self-storytelling ) เพื่อพัฒนาทักษะการพูด ด้วยขั้นตอนการฝึก 5T รูปแบบกิจกรรม Active learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมทุกด้าน ระดับดี ( ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.71 )

โพสต์โดย Kendall J. : [22 พ.ค. 2563 เวลา 12:18 น.]
อ่าน [4309] ไอพี : 124.122.21.19
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,384 ครั้ง
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562

เปิดอ่าน 15,964 ครั้ง
แอบดูไลน์ เป็นไปได้หรือไม่
แอบดูไลน์ เป็นไปได้หรือไม่

เปิดอ่าน 8,718 ครั้ง
ระวัง! ใช้ Wi-Fi ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ เสี่ยงโดนแฮ็ค
ระวัง! ใช้ Wi-Fi ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ เสี่ยงโดนแฮ็ค

เปิดอ่าน 13,288 ครั้ง
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย

เปิดอ่าน 11,671 ครั้ง
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี

เปิดอ่าน 172,548 ครั้ง
หลักการออกแบบของ ADDIE model
หลักการออกแบบของ ADDIE model

เปิดอ่าน 292,228 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่

เปิดอ่าน 12,347 ครั้ง
พ่อแม่ควรแอด เฟซบุ๊ก Facebook ลูกไหม
พ่อแม่ควรแอด เฟซบุ๊ก Facebook ลูกไหม

เปิดอ่าน 11,602 ครั้ง
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย

เปิดอ่าน 11,061 ครั้ง
การพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก
การพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก

เปิดอ่าน 32,452 ครั้ง
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ

เปิดอ่าน 11,107 ครั้ง
คุณแม่มือใหม่ดูเลย ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนแม่เลี้ยงลูก (รายการ ดูให้รู้)
คุณแม่มือใหม่ดูเลย ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนแม่เลี้ยงลูก (รายการ ดูให้รู้)

เปิดอ่าน 4,194 ครั้ง
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว

เปิดอ่าน 17,475 ครั้ง
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ

เปิดอ่าน 26,992 ครั้ง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง

เปิดอ่าน 10,500 ครั้ง
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
เปิดอ่าน 20,113 ครั้ง
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2
ประโยชน์บัตรเครดิต ที่คุณควรรู้ไว้ ตอนที่ 2
เปิดอ่าน 9,374 ครั้ง
ออกกำลังกายตามอารมณ์
ออกกำลังกายตามอารมณ์
เปิดอ่าน 21,531 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
เปิดอ่าน 14,372 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ