ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชา สังคมศึกษา

บทคัดย่อ

รายงานการวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิด

อย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ และ 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนประทาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) จำนวน 36 ชั่วโมง จำนวน 1 ฉบับ แบบทดสอบวัดความรู้รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) จำนวน 1 ฉบับและแบบประเมินพฤติกรรมกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ จำนวน 1 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ แบบ t – test (One group pretest – posttest design) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) ที่มีองค์ประกอบสอดคล้องและเหมาะสมอยู่ในระดับมาก โดยมี 4 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

1.1 แนวคิดของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ

1.2 รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นั้น ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบย่อย ดังนี้

1) ขั้นตอนการจัดกิจกรรม โดยนำเสนอเป็น 6 ขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 นำเสนอ

สถานการณ์ ขั้นที่ 2 พัฒนาแนวทางการคิด ขั้นที่ 3 พิจารณาปัญหา ขั้นที่ 4 สนทนาแลกเปลี่ยน ขั้นที่ 5 เรียนรู้ผลงานกลุ่ม และขั้นที่ 6 สรุปร่วมกัน

2) ระบบทางสังคม

3) หลักการตอบสนอง

4) ระบบที่นำมาสนับสนุน

1.3 การนำรูปแบบการสอนไปใช้

1.4 ผลที่เกิดจากการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ

2. ผลประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า มีประสิทธิภาพ 82.20/82.77 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย

3. ผลการเปรียบเทียบกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่ได้เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) มีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบหลังการเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย

4. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่ได้เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพี่อพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส32102 (เศรษฐศาสตร์) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย

โพสต์โดย krunang : [13 พ.ค. 2563 เวลา 13:02 น.]
อ่าน [5052] ไอพี : 183.89.64.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,756 ครั้ง
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

เปิดอ่าน 17,828 ครั้ง
วัยไหนให้ดูทีวี
วัยไหนให้ดูทีวี

เปิดอ่าน 49,038 ครั้ง
ระบบการพัฒนาอาชีพครู
ระบบการพัฒนาอาชีพครู

เปิดอ่าน 20,270 ครั้ง
บทบาทของการสื่อสารและเครือข่ายฯ
บทบาทของการสื่อสารและเครือข่ายฯ

เปิดอ่าน 20,577 ครั้ง
"e-Learning" บทเรียนออนไลน์ กับสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้
"e-Learning" บทเรียนออนไลน์ กับสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้

เปิดอ่าน 34,987 ครั้ง
วิวัฒนาการความคิดทางการศึกษา
วิวัฒนาการความคิดทางการศึกษา

เปิดอ่าน 10,981 ครั้ง
ช็อกโกแลตชาร์จสมอง ช่วยให้หัวแล่นทำคำนวณได้ไวดี
ช็อกโกแลตชาร์จสมอง ช่วยให้หัวแล่นทำคำนวณได้ไวดี

เปิดอ่าน 14,215 ครั้ง
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?

เปิดอ่าน 11,026 ครั้ง
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด

เปิดอ่าน 1,968 ครั้ง
บริการเช่ารถหรู ที่จะช่วยเติมเต็มความฝันของคุณให้เป็นจริงในทันตา!
บริการเช่ารถหรู ที่จะช่วยเติมเต็มความฝันของคุณให้เป็นจริงในทันตา!

เปิดอ่าน 27,593 ครั้ง
สาวน่องใหญ่ แต่งตัวอย่างไร..ให้ดูสวยเพรียว
สาวน่องใหญ่ แต่งตัวอย่างไร..ให้ดูสวยเพรียว

เปิดอ่าน 13,886 ครั้ง
คำว่า สปา มาจากไหน
คำว่า สปา มาจากไหน

เปิดอ่าน 7,803 ครั้ง
วิธีเฟ้นคนแบบ "Google" ไม่สนปริญญา
วิธีเฟ้นคนแบบ "Google" ไม่สนปริญญา

เปิดอ่าน 9,605 ครั้ง
ตั้งกล้องดูสุริยคราสตั้งแต่เวลา 15.50 น.-ใต้เห็นชัดสุด
ตั้งกล้องดูสุริยคราสตั้งแต่เวลา 15.50 น.-ใต้เห็นชัดสุด

เปิดอ่าน 25,289 ครั้ง
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐
กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๕๐

เปิดอ่าน 13,536 ครั้ง
เทคนิคการจัดการชั้นเรียนด้วยโมเดล 3 C"s
เทคนิคการจัดการชั้นเรียนด้วยโมเดล 3 C"s
เปิดอ่าน 18,326 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 54 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 54 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 110,935 ครั้ง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของผักใบเขียวมีอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 7,014 ครั้ง
รวมสื่อการสอน Back to School 2565
รวมสื่อการสอน Back to School 2565
เปิดอ่าน 34,645 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่ารากของสมการ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับค่ารากของสมการ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ