งานวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วนโดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model)
สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่6
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ
1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วนโดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA Model) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6
2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ70และมีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ80ของนักเรียนทั้งหมดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ70ขึ้นไป
3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วนโดยใช้โมเดลซิปปากลุ่มเป้าหมายนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนบ้านชุมแสง อำเภอจอมพระสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1 จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
1 ) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปาเรื่องเศษส่วนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 15 แผน 15 ชั่วโมง
2 ) เครื่องมือที่ใช้สะท้อนผลการปฏิบัติได้แก่แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนแบบบันทึกหลังสอนแบบสัมภาษณ์ผู้เรียนแบบทดสอบท้ายวงจร
3 ) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ได้แก่แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนรูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการมีวงจรปฏิบัติการ4วงจรการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละค่าเฉลี่ยและสรุปความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
1) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โมเดลซิปปา(CIPPA Model) 7ขั้นตอนกับการใช้
หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ
กิจกรรมต่างๆด้วยตนเองนักเรียนทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและร่วมอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มนักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองส่งผลให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้งและจดจำได้ดีได้เคลื่อนไหวทางกายทำให้นักเรียนตื่นตัวมีสมาธิและความพร้อมในการเรียนส่งผลให้เรียนด้วยความสนใจและตั้งใจเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัวสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง
นอกจากนี้นักเรียนยังได้รับการพัฒนาทักษะและกระบวนการต่าง ๆ ที่สำคัญและจำเป็นเช่นทักษะการคิดวิเคราะห์ทักษะการสื่อสารทักษะการจัดการทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองทักษะกระบวนการกลุ่มและเกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ได้แก่มีความกระตือรือร้นในการเรียนใฝ่รู้ใฝ่เรียนกล้าแสดงออกยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมีการวางแผนการทำงานมีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่มและมีความมุ่งมั่นในการทำงาน
2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ79.17และมีนักเรียนจำนวน10คนคิดเป็นร้อยละ
83.33 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ70ขึ้นไปซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3)นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องเศษส่วนโดยใช้โมเดลซิปปา(CIPPA Model)โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด