ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาพฤติกรรมทางสังคม โดยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 4 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปลูง

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมโดยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 4 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปลูง ในภาพรวมและรายพฤติกรรมทั้ง 4 ด้าน และเพื่อการศึกษาผลการเปรียบเทียบการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมโดยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 4 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปลูง จำนวน20 คน ซึ่งมีวิธีดำเนินการศึกษา ดังนี้ ทำการสังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ก่อนการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ที่ผู้ศึกษาได้สร้างขึ้น แล้วดำเนินการจัดกิจกรรมตามคู่มือการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้จนครบ 10 สัปดาห์ จึงทำการสังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบไปด้วยคู่มือการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยด้วยวัสดุเหลือใช้ใช้สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 4 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปลูง จำนวน 10 กิจกรรม แผนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้จำนวน 10 แผน และแบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ค่าเฉลี่ย (µ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละโดยเปรียบเทียบพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย

ผลการศึกษา พฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยทั้งรายพฤติกรรมและในภาพรวมระหว่างการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 4 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปลูง มีผลการพัฒนาที่สูงขึ้นทุกสัปดาห์ และในภาพรวมทั้ง 4 ด้าน จากการประเมินสัปดาห์ที่ 1-10 มีผลการพัฒนาที่สูงขึ้นทุกด้านตามลำดับ แสดงว่าพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยในช่วง 10 สัปดาห์มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นตามลำดับ พฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยหลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ ด้วยวัสดุเหลือใช้ มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ด้วยวัสดุเหลือใช้คือ ด้านการทำงานร่วมกับผู้อื่น หลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรม โดยมีค่าความแตกต่างที่ร้อยละ 48.33 ด้านการแบ่งปันหลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมโดยมีค่าความแตกต่างที่ร้อยละ 43.33 ด้านการช่วยเหลือหลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมโดยมีค่าความแตกต่างที่ร้อยละ 41.67ด้านการเป็นผู้นำ ผู้ตาม หลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมโดยมีค่าความแตกต่างที่ร้อยละ 41.67 และในภาพรวมก่อนการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยรวม 1.63 คิดเป็นร้อยละ 54.17 หลังการจัดกิจกรรมมีคะแนนเฉลี่ยรวม 2.94 คิดเป็นร้อยละ 97.92 และมีค่าความแตกต่างเฉลี่ยรวม 1.31 คิดเป็นร้อยละ 43.75 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว

โพสต์โดย K.Bum : [18 เม.ย. 2563 เวลา 12:55 น.]
อ่าน [5271] ไอพี : 223.205.235.127
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,051 ครั้ง
การศึกษาไทย กระบวนทัศน์ที่หลงทาง
การศึกษาไทย กระบวนทัศน์ที่หลงทาง

เปิดอ่าน 22,560 ครั้ง
แอร์รถมีกลิ่นตอนเปิด เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร
แอร์รถมีกลิ่นตอนเปิด เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร

เปิดอ่าน 60,052 ครั้ง
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย

เปิดอ่าน 32,577 ครั้ง
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์

เปิดอ่าน 9,424 ครั้ง
ประทับใจ! คลิปช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุม ก่อนวิ่งหาแม่ด้วยความดีใจ
ประทับใจ! คลิปช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุม ก่อนวิ่งหาแม่ด้วยความดีใจ

เปิดอ่าน 12,724 ครั้ง
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน

เปิดอ่าน 12,629 ครั้ง
4 อาหารสลายพุง
4 อาหารสลายพุง

เปิดอ่าน 19,107 ครั้ง
สาเหตุใหญ่ของป่วยเป็นมะเร็ง มาจากนิสัยการกินอยู่แต่ละคน
สาเหตุใหญ่ของป่วยเป็นมะเร็ง มาจากนิสัยการกินอยู่แต่ละคน

เปิดอ่าน 16,540 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"

เปิดอ่าน 5,261 ครั้ง
พืชเศรษฐกิจ
พืชเศรษฐกิจ

เปิดอ่าน 11,230 ครั้ง
รวยด้วยมรรค 8
รวยด้วยมรรค 8

เปิดอ่าน 22,586 ครั้ง
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์

เปิดอ่าน 45,261 ครั้ง
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ

เปิดอ่าน 31,803 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 18,089 ครั้ง
เคยเห็นมั๊ย? มดมหัศจรรย์พันธุ์ เก็บน้ำหวานจนท้องกลมป่อง เป็นเสบียงให้ฝูง
เคยเห็นมั๊ย? มดมหัศจรรย์พันธุ์ เก็บน้ำหวานจนท้องกลมป่อง เป็นเสบียงให้ฝูง

เปิดอ่าน 22,758 ครั้ง
"นอนห้อยหัว" วันละ 10 นาที ช่วยสมองดี แก่ช้า หน้าใส ไกลอัมพาต
"นอนห้อยหัว" วันละ 10 นาที ช่วยสมองดี แก่ช้า หน้าใส ไกลอัมพาต
เปิดอ่าน 1,258 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
เปิดอ่าน 19,997 ครั้ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง
เปิดอ่าน 56,730 ครั้ง
ขั้นตอนการขอต่อใบอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ขั้นตอนการขอต่อใบอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปิดอ่าน 127,445 ครั้ง
เตือนข้าราชการ นอกใจ มีชู้ มีกิ๊ก โดนโทษวินัย โทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือนจนถึงไล่ออก
เตือนข้าราชการ นอกใจ มีชู้ มีกิ๊ก โดนโทษวินัย โทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือนจนถึงไล่ออก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ