ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่าย เพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่าย เพื่อการบริหารจัดการ

โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561

ผู้วิจัย ทูลใจ ศรีพรหม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโบสถ์

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้ เป็นการพัฒนารูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่าย เพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 โดยใช้กรอบการวิจัยและพัฒนา (Research & Development: R&D) ซึ่งกำหนดวัตถุประสงค์ตามขั้นตอนของการศึกษา 4 ข้อ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการในการพัฒนารูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 2) เพื่อสร้างรูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 ผลการวิจัย พบว่า

1. โรงเรียนวัดโบสถ์ เป็นโรงเรียนประถมประจำอำเภอขนาดใหญ่ ที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลที่เป็นความคาดหวังของผู้ปกครองและสังคม ประกอบกับเป็นโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนด้านความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาทั้งภายในและภายนอกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ และผลจากการสอบถามความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง พบว่า โรงเรียนวัดโบสถ์ มีสภาพปัจจุบัน และความต้องการในการพัฒนารูปแบบในระดับมาก

2. รูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 เป็นรูปแบบความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในระดับต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน โดยมี 6 องค์ประกอบ ดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ โครงสร้างการดำเนินการ แนวทางการนำรูปแบบ ไปใช้ คุณภาพของรูปแบบ และปัจจัยความสำเร็จ

2.1 หลักการ : การประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดการศึกษา เครือข่ายภายในและเครือข่ายภายนอกสถานศึกษา ประกอบด้วย เครือข่ายครู เครือข่ายผู้ปกครอง เครือข่ายคณะกรรมการสถานศึกษา และเครือข่ายหน่วยงานต่างๆ เข้ามามีบทบาทในการร่วมวางแผน การดำเนินงาน การติดตามตรวจสอบการดำเนินการ และการสะท้อนผลเพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา ให้เป็นไปตามความคาดหวังของสถานศึกษา ตามแนวคิดการผนึกกำลัง (synergy) ทฤษฎีการแลกเปลี่ยน (exchange theory) และหลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม (participative management)

2.2 วัตถุประสงค์ : เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเน้นความร่วมมือของภาคีเครือข่าย

2.3 โครงสร้างการดำเนินการ :

2.4 แนวทางการนำรูปแบบไปใช้ :

รูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ เป็นรูปแบบความร่วมมือในการบริหารจัดการ เพื่อดำเนินงานพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ตามตรรกะของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน กล่าวคือ การบริหารจัดการสถานศึกษา จะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ทั้งในส่วนผลสัมฤทธิ์ทางวิชากร และคุณลักษณะที่ พึงประสงค์ ดังนั้น ในการนำรูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียนวัดโบสถ์ ไปใช้ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ การสร้างเป้าหมายร่วมในการพัฒนา และการกำหนดบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายแต่ละระดับ ซึ่งต้องมีความชัดเจนและนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ภาคีเครือข่าย จะต้องมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน การดำเนินงาน การติดตามตรวจสอบ และการสะท้อนผลการดำเนินงาน เพื่อการพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการ เพื่อนำไปสู่การบรรลุตามเป้าหมาย

2.5 คุณภาพของรูปแบบ : จากการประเมินความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้

ความเหมาะสม และความถูกต้องครอบคลุม ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ทุกข้อคำถามได้รับฉันทามติ และเมื่อเทียบกับเกณฑ์ พบว่า อยู่ในระดับมาก

2.6 ปัจจัยความสำเร็จ :

1) ภาคีเครือข่ายทุกระดับต้องประสานความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวโดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนวัดโบสถ์

2) การกำหนดบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายแต่ละระดับ ต้องมีความชัดเจน เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจและการปฏิบัติตามบทบาทอย่างเหมาะสม

3) การสร้างวัฒนธรรมการร่วมสะท้อนผลอย่างสร้างสรรค์ จะนำไปสู่ การพัฒนาปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างมีประสิทธิผล

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียน วัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561

3.1 ระดับการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย พบว่า ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก จำแนกเป็นการมีส่วนร่วมในภาพรวมของภาคีเครือข่ายภายใน อยู่ในระดับมากที่สุด และภาคีเครือข่ายภายนอก อยู่ในระดับมาก

3.2 ผลการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา

3.2.1 ด้านการบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม โดยสถานศึกษา มีแผนพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการพัฒนาของสถานศึกษา มีแผนปฏิบัติการประจำปี สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย มีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มาตรฐานตำแหน่ง ข้อมูลสารสนเทศมีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ และมีกิจกรรมจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่กระตุ้นผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้ มีการระดมทรัพยากรทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพมากขึ้น

3.2.2 ด้านการจัดการเรียนการสอน ในภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม โดยคณะครูวิเคราะห์ผู้เรียน วิเคราะห์หลักสูตร ศึกษาข้อมูลสภาพปัญหาและความต้องการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เน้นคุณธรรมนำความรู้ โดยการดำเนินงาน/กิจกรรมอย่างหลากหลาย สนับสนุนให้ครูจัดการเรียนรู้ที่สร้างโอกาสให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริง สามารถสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง จัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการคิด เช่น จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงาน สร้างบรรยากาศทั้งภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ครูใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ครูทุกคนทำงานวิจัยในชั้นเรียนปีการศึกษาละ 2 เรื่อง มีกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ 2 ภาษา ตามโครงการ “English We can say”

3.2.3 ด้านคุณภาพผู้เรียน ในภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม

1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีร้อยละของคะแนนเฉลี่ย ในปีการศึกษา 2561 บรรลุเป้าหมายตามที่สถานศึกษากำหนด และสูงกว่าปีการศึกษา 2560 ผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาพรวม ปีการศึกษา 2561 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ปีการศึกษา 2560

2) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำแนกเป็น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ และค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ พบว่า ในปีการศึกษา 2561 นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้ง 2 ด้าน ในระดับดีและดีเยี่ยม ร้อยละ 80 ขึ้นไปทุกข้อ

4. ผลการประเมินรูปแบบความร่วมมือภาคีเครือข่ายเพื่อการบริหารจัดการ โรงเรียน วัดโบสถ์ ปีการศึกษา 2561 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเห็นว่า ภาคีเครือข่ายมีบทบาท ในด้านการวางแผนการดำเนินงานมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ภาคีเครือข่ายมีบทบาทในการตรวจสอบประเมินผล และมีบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ตามลำดับ

โพสต์โดย อรรถพงษ์ อินต๊ะวงศ์ : [14 เม.ย. 2563 เวลา 12:24 น.]
อ่าน [3055] ไอพี : 171.100.191.238
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,891 ครั้ง
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินวิตามินอย่างไรให้ได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 14,695 ครั้ง
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม

เปิดอ่าน 26,607 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556

เปิดอ่าน 18,475 ครั้ง
13 สไตล์การกินระบายอารมณ์
13 สไตล์การกินระบายอารมณ์

เปิดอ่าน 8,458 ครั้ง
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน

เปิดอ่าน 31,807 ครั้ง
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ

เปิดอ่าน 21,815 ครั้ง
ปรากฏการณ์ดาวศุกร์โคจรตัดหน้าดวงอาทิตย์
ปรากฏการณ์ดาวศุกร์โคจรตัดหน้าดวงอาทิตย์

เปิดอ่าน 54,638 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้

เปิดอ่าน 13,390 ครั้ง
วีดีทัศน์หลักเกณฑ์ตาม ว7/2558 (เกณฑ์ PA)
วีดีทัศน์หลักเกณฑ์ตาม ว7/2558 (เกณฑ์ PA)

เปิดอ่าน 70,265 ครั้ง
มหัศจรรย์ เลข 11
มหัศจรรย์ เลข 11

เปิดอ่าน 16,857 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 10,207 ครั้ง
แกล้งคนในลิฟต์ 55+
แกล้งคนในลิฟต์ 55+

เปิดอ่าน 31,140 ครั้ง
หลักเกณฑ์สอบบรรจุครูผู้ช่วย
หลักเกณฑ์สอบบรรจุครูผู้ช่วย

เปิดอ่าน 17,679 ครั้ง
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม

เปิดอ่าน 31,748 ครั้ง
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน

เปิดอ่าน 55,381 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
เปิดอ่าน 16,874 ครั้ง
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน
เปิดอ่าน 9,746 ครั้ง
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น
เปิดอ่าน 12,222 ครั้ง
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
เปิดอ่าน 18,492 ครั้ง
ฟ้า กับ เหว
ฟ้า กับ เหว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ