ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างรอบด้าน ของโรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างรอบด้าน โรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อประเมินบริบทของโครงการ 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้า

3) เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินการ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการ 5) เพื่อประเมินผลกระทบของโครงการ และ 6) เพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินกับเกณฑ์ความสำเร็จที่ตั้งไว้ เครื่องมือประเมิน ได้แก่ บบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อมูล ประชากร ผู้บริหาร 2 คน ครู 42 คน นักเรียน 569 คน ตัวอย่างคือนักเรียน จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยสุ่มอย่างง่ายจากนักเรียนทุกระดับชั้น โดยวิธีจับสลาก จากนักเรียนระดับชั้น ๆ ละ 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 คน สถิติที่ใช้ในการวอเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบวิลคอกซัน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการประเมินโครงการงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างรอบด้าน ของโรงเรียนห้วยต้อนพิททยาคมพบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และอยู่ในระดับมากที่สุด 4 ด้าน และระดับมาก 1 ด้าน แสดงว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านผลกระทบของโครงการ ด้านบริบทโครงการ ด้านการดำเนินงานโครงการ ด้านผลผลิตโครงการ และ ด้านปัจจัยนำเข้าโครงการ ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านปรากฏผล ดังนี้

1.1 ผลการประเมินด้านบริบท ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ โครงการสอดคล้องกับความต้องการของผู้เกี่ยวข้องในสถานศึกษา ผู้บริหารมีนโยบายที่ชัดเจนในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หลักการและเหตุผลของโครงการสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของโครงการ ครูให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายและ แผนงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ผู้ปกครองนักเรียน ผู้นำชุมชน และผู้เกี่ยวข้อมีการประสานความสัมพันธ์ เพื่อดูแลช่วยเหลือนักเรียน ทั้งในโรงเรียน ที่บ้าน และชุมชน

1.2 ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ครูประจำชั้นได้รับการอบรมให้มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลช่วยเหลือนกัเรียน ความเหมาะสมในการดำเนินการคัดกรองนักเรียน ความเหมาะสมของการจัดครูที่ปรึกษาดูแลนักเรียน ผู้บริหารโรงเรียนให้ความสำคัญ และเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง และ โรงเรียนมีสื่อ เครื่องมือในการดำเนินโครงการงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างรอบด้าน ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ โรงเรียนมีการวางแผนจัดสรรงบประมาณครอบคลุมทุกกิจกรรมอย่างเพียงพอ

1.3 ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ครูประจำชั้นมีการรวบรวมข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคลด้วยวิธีการที่เหมาะสมและหลากหลาย ครูประจำชั้นจำแนกคัดกรองนักเรียนเป็นรายบุคคลทั้ง ในระดับชั้นเรียนและระดับโรงเรียน ครูประจำชั้นมีการศึกษาข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล ครูประจำชั้นจำแนกคัดกรองนักเรียนตามแนวทางและเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด และ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมโฮมรูม(Home Room) อย่างเหมาะสม ตามลำดับ) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ครูประจำชั้นมีการสรุปผลการจำแนก คัดกรองนักเรียนครบทุกคน

1.4 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ผู้บริหารมีการวางระบบการบริหารจัดการของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเหมาะสม นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาเต็มตามศักยภาพให้สมบูรณ์ทั้งอารมณ์ สังคม และสติปัญญา นักเรียนได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึง และตรงตามปัญหา โรงเรียนมีการดำเนินการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามแผนการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้อย่างเป็นระบบมีขั้นตอนชัดเจน และ นักเรียนรับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ ในฐานะสมาชิกของครอบครัว ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ นักเรียนปฏิบัติตนตามประเพณี วัฒนธรรมของชุมชน และ สังคม

1.5 ผลการประเมินด้านผลกระทบของโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ครูมีทักษะด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ทักษะการสังเกต การให้คำปรึกษา การบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ฯลฯ ครูมีทัศนคติที่ดีต่อระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยเฉพาะต่อนักเรียนกลุ่มห่วงใยและกลุ่มใกล้ชิด โรงเรียนได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครอง ชุมชน ในการเข้ามาศึกษาในโรงเรียนมากขึ้น โรงเรียนเป็นแหล่ง วิทยากร และแหล่งเรียนรู้ของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ ครูมีความพึงพอใจในบทบาทหน้าที่ของครูที่ปรึกษา ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ นักเรียนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมไทยอย่างมีความสุข

2. ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของผลการประเมินโครงการหลังสิ้นสุดโครงการโดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์ ในภาพรวมพบว่าค่าค่าเฉลี่ยของผลการประเมินโครงการหลังสิ้นสุด มีค่ามากกว่าเกณฑ์ความสำเร็จที่ตตั้งไว้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย รังสันต์ : [13 เม.ย. 2563 เวลา 14:12 น.]
อ่าน [4295] ไอพี : 1.179.184.74
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,673 ครั้ง
เหรียญราชการชายแดน
เหรียญราชการชายแดน

เปิดอ่าน 1,583 ครั้ง
Intrend ให้แบบไม่ OUT กับ 5 รูปแบบการสอน Active Learning ที่ครูต้องใช้ในยุคนี้
Intrend ให้แบบไม่ OUT กับ 5 รูปแบบการสอน Active Learning ที่ครูต้องใช้ในยุคนี้

เปิดอ่าน 10,890 ครั้ง
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า

เปิดอ่าน 19,969 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"

เปิดอ่าน 56,909 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

เปิดอ่าน 17,370 ครั้ง
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์
วันครู "ครูไทย" การ์ตูนคิวคน โดย อรุณ วัชรสวัสดิ์

เปิดอ่าน 15,525 ครั้ง
โรคฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม
โรคฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม

เปิดอ่าน 10,392 ครั้ง
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส
รถชนประวัติการณ์ 100 คัน ที่เท็กซัส

เปิดอ่าน 98,299 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 3 จำนวนผู้เล่น(The Number Of Players)

เปิดอ่าน 15,473 ครั้ง
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..

เปิดอ่าน 10,301 ครั้ง
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?

เปิดอ่าน 17,894 ครั้ง
อะควาโพนิค ต้นแบบสวนครัวยุคใหม่...ปลูกผักเลี้ยงปลา
อะควาโพนิค ต้นแบบสวนครัวยุคใหม่...ปลูกผักเลี้ยงปลา

เปิดอ่าน 71,184 ครั้ง
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 7,018 ครั้ง
กองทุนการศึกษา โครงการพระราชดำริสุดท้าย ด้วยความห่วงใยอนาคตชาติ
กองทุนการศึกษา โครงการพระราชดำริสุดท้าย ด้วยความห่วงใยอนาคตชาติ

เปิดอ่าน 11,887 ครั้ง
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 20,309 ครั้ง
ต้นกำเนิดของปลา
ต้นกำเนิดของปลา
เปิดอ่าน 18,781 ครั้ง
เตรียมตัวให้พร้อม...ผลไม้ไทย ทานอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง
เตรียมตัวให้พร้อม...ผลไม้ไทย ทานอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง
เปิดอ่าน 10,707 ครั้ง
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
เปิดอ่าน 19,720 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ เรื่องริดสีดวงทวาร
ไขข้อข้องใจ เรื่องริดสีดวงทวาร
เปิดอ่าน 13,358 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ