ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่น

พื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัย

เตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี

ชื่อผู้วิจัย นางนวพร วงษ์ขันธ์

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

ศูนย์เด็กเล็กโรงเรียนบ้านลุมพุกคลองแก้ว อำเภอภูสิงห์

จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลโคกตาล

ปีที่วิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี 3) เปรียบเทียบพัฒนาการพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เด็กที่กำลังเรียนอยู่ระดับปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี ศูนย์เด็กเล็กโรงเรียนบ้านลุมพุกคลองแก้ว องค์การบริหารส่วนตำบลโคกตาล อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 28 คน จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี จำนวน 24 ชุด 2) แผนการจัดประสบการณ์ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี จำนวน 24 แผน 3) แบบทดสอบวัดพัฒนาการพัฒนาทางสังคม และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าประสิทธิภาพ และค่าดัชนีประสิทธิผล)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปีมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.19/81.75 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี มีค่าเท่ากับ 0.67 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.67 หรือคิดเป็นร้อยละ 67

3. เปรียบเทียบพัฒนาการพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 12.11 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 24.85 เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเท่ากับ 12.74 และร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 42.47

4. ความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้กลางแจ้งโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้าน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมสำหรับเด็กปฐมวัยเตรียมอนุบาล อายุ 2-3 ปี มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.41

โพสต์โดย ครูจิตรา : [11 เม.ย. 2563 เวลา 16:13 น.]
อ่าน [4249] ไอพี : 223.205.243.240
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,737 ครั้ง
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ

เปิดอ่าน 10,099 ครั้ง
IE8 ครองตำแหน่งบราวเซอร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด
IE8 ครองตำแหน่งบราวเซอร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด

เปิดอ่าน 9,470 ครั้ง
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน

เปิดอ่าน 5,302 ครั้ง
ปวดคอ แบบไหนอันตราย
ปวดคอ แบบไหนอันตราย

เปิดอ่าน 57,703 ครั้ง
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ

เปิดอ่าน 8,951 ครั้ง
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม

เปิดอ่าน 12,306 ครั้ง
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ

เปิดอ่าน 12,360 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”

เปิดอ่าน 15,025 ครั้ง
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน

เปิดอ่าน 41,607 ครั้ง
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 644 ครั้ง
การทำ SEO ทำยังไงให้ติดหน้าแรก Google กลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายธุรกิจเลือกใช้
การทำ SEO ทำยังไงให้ติดหน้าแรก Google กลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายธุรกิจเลือกใช้

เปิดอ่าน 11,305 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 เมษายน 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 เมษายน 2552

เปิดอ่าน 9,679 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

เปิดอ่าน 12,622 ครั้ง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง

เปิดอ่าน 12,235 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง

เปิดอ่าน 11,151 ครั้ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี หนังสือที่ควรมีไว้ประจำบ้าน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี หนังสือที่ควรมีไว้ประจำบ้าน
เปิดอ่าน 10,613 ครั้ง
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
Facebook และ Twitter ใช้ยิ่งมาก...สุขภาพยิ่งดีกว่านะ
เปิดอ่าน 11,558 ครั้ง
"ราชบัณฑิตยสภา"
"ราชบัณฑิตยสภา"
เปิดอ่าน 22,947 ครั้ง
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
เปิดอ่าน 11,724 ครั้ง
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ