ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลของการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

ผลของการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง อำเภอลี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง ปีการศึกษา 2562 โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ของ Daniel L. Stufflebeam ซึ่งประกอบด้วย 4 ด้าน คือ 1) ประเมินด้านสภาพบริบท (Context Evaluation) 2) ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) 3) ประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และ 4) ประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ จำนวน 68 คนประกอบด้วย ครู และบุคลากรผู้ปฏิบัติงานโครงการ จำนวน 8 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 34 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 จำนวน 19 คน และกรรมการสถานศึกษา จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามเพื่อประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง สำหรับครูและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานโครงการ ฉบับที่ 2 แบบสอบถามเพื่อประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง สำหรับนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)

สรุปผลการประเมินโครงการ

1. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง จากการตอบแบบสอบถามของครูผู้ปฏิบัติงานโครงการจำนวน 8 คน ใน สรุปผล ได้ดังนี้

1.1 ด้านสภาพบริบท (Context)

มีผลการประเมิน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.77, S.D. = 0.34) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มีระดับมากที่สุด คือ สถานศึกษามีหลักการการดำเนินการที่สุดคล้องกับจุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2552 โดยเสนอโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในส่วนของงานบริหารด้านวิชาการ (x̄ = 5.00, S.D. = 0.00) รองลงมาในระดับมากที่สุด คือ มีแนวทางการดำเนินงานของโครงการที่สอดคล้องกับทิศทางของโรงเรียนบ้านโฮ่ง (x̄ = 4.88, S.D. = 0.33) และมีวัตถุประสงค์ เป้าหมายและประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรมจากโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.63, S.D. = 0.46) ตามลำดับ สรุปด้านสภาพบริบท (Context) เท่ากับผ่านเกณฑ์การประเมิน

1.2 ด้านปัจจัยนำเข้า (Input)

มีผลการประเมินโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.68, S.D. = 0.43) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีระดับมากที่สุด คือ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานชัดเจน ในแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสม (x̄ = 5.00, S.D. = 0.00) รองลงมาอยู่ในระดับมากที่สุด คือ ผู้รับผิดชอบโครงการมีการเป็นผู้นำในการดำเนินงาน คือ ผู้บริหารสถานศึกษามีการให้การส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาบุคลากรและสร้างขวัญกำลังใจ คณะครู และบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความรัก ความเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดนักเรียน (x̄ = 4.88, S.D. = 0.33) รองลงมาอยู่ในระดับมากที่สุด คือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการดำเนินงาน กำหนดไว้เพียงพอและการดำเนินกิจกรรมตามโครงการเป็นไปตามกรอบเวลา ที่ได้กำหนดไว้ (x̄ = 4.75, S.D. = 0.43) ตามลำดับ สรุปด้านปัจจัยนำเข้า (Input) เท่ากับผ่านเกณฑ์ การประเมิน

1.3 ด้านกระบวนการ (Process)

1) ผลการประเมินจากการพิจารณาความเหมาะสมด้านกระบวนการ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนของโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.70, S.D. = 0.41) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อรายการ พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ ข้อที่มีความเหมาะสมสูงสุด คือ ขั้นการดำเนินงานของโครงการ (x̄ = 4.73, S.D. = 0.42) รองลงมา คือ ขั้นเตรียมการโครงการ (x̄ = 4.69, S.D. = 0.39) และขั้นการประเมินผล (x̄ = 4.69, S.D. = 0.43) ตามลำดับ สรุปด้านกระบวนการ (Process) ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนการดำเนินงานเท่ากับผ่านเกณฑ์

2) ผลการประเมินจากการพิจารณาความเหมาะสม ด้านกระบวนการ ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการดำเนินงานของกิจกรรมตามโครงการโดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.62, S.D. = 0.48) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีระดับความเหมาะสมสูงสุดในระดับ มากที่สุด คือ กิจกรรมโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ (x̄ = 4.91, S.D. = 0.25) และกิจกรรมการทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักเรียน (x̄ = 4.88, S.D. = 0.27) รองลงมามีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด คือ กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน (x̄ = 4.79, S.D. = 0.39) การจัดเก็บข้อมูลนักเรียน เป็นรายบุคคล (x̄ = 4.72, S.D. = 0.32) การคัดกรองนักเรียน (x̄ = 4.72, S.D. = 0.42) ตามลำดับ สรุปด้านกระบวนการ (Process) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการดำเนินงานของกิจกรรมตามโครงการโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เท่ากับผ่านเกณฑ์

1.4 ด้านผลผลิต (Product )

1) ผลการประเมิน ด้านผลผลิตเกี่ยวกับคุณภาพของนักเรียน โดยภาพรวม พบว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.63, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่ามีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด คือ การมีทักษะชีวิต สามารถหลีกเลี่ยงป้องกันอันตรายจากสิ่งที่ ไม่พึงประสงค์ (x̄ = 4.70, S.D. = 0.43) รองลงมาคือ การเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียนและชุมชน (x̄ = 4.69, S.D. = 0.43) และการมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี (x̄ = 4.69, S.D. = 0.48) ตามลำดับ สรุปด้านผลผลิต (Product) ด้านคุณภาพของนักเรียนเท่ากับผ่านเกณฑ์

2) ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับด้านการปฏิบัติกิจกรรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.62, S.D. = 0.51) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ การคัดกรองนักเรียน (x̄ = 4.82, S.D. = 0.38) รองลงมา คือ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.70, S.D. = 0.42) การส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพแก่นักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.56) กิจกรรมแนะแนวในโรงเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.56) ตามลำดับ สรุปด้านผลผลิต (Product) ด้านการปฏิบัติกิจกรรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เท่ากับผ่านเกณฑ์

3) ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับด้านคุณภาพของคณะครูและบุคลากร โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.80, S.D. = 0.38) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ ข้อที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้นำในการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน คณะทำงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถและคณะครูและบุคลากรมีการประเมินผลโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน (x̄ = 4.75, S.D. = 0.43) ตามลำดับ สรุปด้านผลผลิต (Product) ด้านคุณภาพของคณะครูและบุคลากร เท่ากับผ่านเกณฑ์

1.5 ปัญหาและอุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ

1. ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดจากการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

1) มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือให้ชุมชนและผู้เกี่ยวข้องรับทราบอย่างทั่วถึงโดยมีการประชุมน้อยครั้ง

2) การดำเนินงานโครงการนี้ไม่ครอบคลุมในระดับชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1-3

2. แนวทางในการแก้ไขปัญหา

1) โรงเรียนควรมีการประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน

2) ควรพิจารณาประเมินการปฏิบัติงานให้ครอบคลุมในระดับชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ในปีการศึกษาต่อไป

3. ข้อเสนอแนะ

1) ควรจัดทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน อย่างต่อเนื่องทุกปีการศึกษา

2) ควรมีการประชุมชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้แก่ ครู ผู้ปกครอง นักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยภาคเรียนละครั้งเพื่อขอความร่วมมือสนับสนุนการจัดทำโครงการนี้จากชุมชน

3) คณะครูควรมีกิจกรรมการเยี่ยมบ้านสม่ำเสมอ เป็นการสร้างสัมพันธภาพ ที่ดีระหว่าง โรงเรียนและชุมชน

2. ผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง จากการตอบแบบสอบถามของนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน ที่มีต่อการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านโฮ่ง

2.1 ผลการประเมินที่ได้จากการตอบแบบสอบถามของนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับด้านคุณภาพของนักเรียนและด้านการมีส่วนร่วมในภาพรวมระดับความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.67, S.D. = 0.65) เมื่อได้พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีระดับความเหมาะสมอยู่ในมากที่สุด สำหรับด้านที่มีระดับความเหมาะสมสูงสุดอยู่ในระดับ มากที่สุด ได้แก่ ด้านมีส่วนร่วมโดยภาพรวม (x̄ = 4.67, S.D. = 0.63) รองลงมา ได้แก่ ด้านคุณภาพของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.67, S.D. = 0.67) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อรายการ พบว่า ข้อรายการที่มีระดับการประเมินสูงสุดอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ การปฏิบัติตนให้เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ตามบทบาทหน้าที่ (x̄ = 4.74, S.D. = 0.59) และการมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี (x̄ = 4.71, S.D. = 0.62) ตามลำดับ สรุปผลการประเมิน เท่ากับผ่านเกณฑ์

2.2 ปัญหาและอุปสรรค แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโฮ่ง อำเภอลี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2

1) ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดจากการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

1) มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือให้ชุมชนและผู้เกี่ยวข้องรับทราบอย่างทั่วถึงโดยมีการประชุมน้อยครั้ง

2) การดำเนินงานโครงการนี้ไม่ครอบคลุมในระดับชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3

2) แนวทางในการแก้ไขปัญหา

1) โรงเรียนควรมีการประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน

2) ควรพิจารณาประเมินการปฏิบัติงานให้ครอบคลุมในระดับชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ในปีการศึกษาต่อไป

3) ข้อเสนอแนะ

1) ควรจัดทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่องทุกปีการศึกษา

2) ควรมีการประชุมชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้แก่ ครู ผู้ปกครอง นักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยภาคเรียนละครั้งเพื่อขอความร่วมมือสนับสนุนการจัดทำโครงการนี้จากชุมชน

3) คณะครูควรมีกิจกรรมการเยี่ยมบ้านสม่ำเสมอ เป็นการสร้างสัมพันธภาพ ที่ดีระหว่าง โรงเรียนและชุมชน

โพสต์โดย ลอด : [3 เม.ย. 2563 เวลา 17:57 น.]
อ่าน [4766] ไอพี : 171.4.240.225
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,636 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติตามข้อบังคับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2552
คู่มือการปฏิบัติตามข้อบังคับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2552

เปิดอ่าน 23,304 ครั้ง
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ

เปิดอ่าน 27,482 ครั้ง
สะเทือนอารมณ์...พ่อร้องเพลงกล่อมลูก ก่อนเด็กน้อยลาโลกตามแม่
สะเทือนอารมณ์...พ่อร้องเพลงกล่อมลูก ก่อนเด็กน้อยลาโลกตามแม่

เปิดอ่าน 11,655 ครั้ง
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ

เปิดอ่าน 20,541 ครั้ง
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

เปิดอ่าน 13,519 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 14,183 ครั้ง
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย

เปิดอ่าน 12,616 ครั้ง
โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษครูอาชีวะทั่วประเทศ
โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษครูอาชีวะทั่วประเทศ

เปิดอ่าน 42,180 ครั้ง
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย

เปิดอ่าน 15,080 ครั้ง
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"

เปิดอ่าน 13,255 ครั้ง
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3

เปิดอ่าน 15,452 ครั้ง
 16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล
16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล

เปิดอ่าน 23,033 ครั้ง
ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม

เปิดอ่าน 10,968 ครั้ง
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล
ปรับการเรียนแนวใหม่สู้ "โอเน็ต" ให้ได้ผล

เปิดอ่าน 20,033 ครั้ง
พระศิวะ
พระศิวะ

เปิดอ่าน 4,347 ครั้ง
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์  การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
เปิดอ่าน 38,447 ครั้ง
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 19,216 ครั้ง
พุทธคุณ 9
พุทธคุณ 9
เปิดอ่าน 28,566 ครั้ง
หนังสือดีเด่น 2559 ที่พ่อแม่ควรให้ "ลูก" อ่าน
หนังสือดีเด่น 2559 ที่พ่อแม่ควรให้ "ลูก" อ่าน
เปิดอ่าน 8,892 ครั้ง
ทางออกในการบริหารคุณภาพการศึกษา : การบริหารผู้ประเมินภายนอกแนวใหม่
ทางออกในการบริหารคุณภาพการศึกษา : การบริหารผู้ประเมินภายนอกแนวใหม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ