ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding)
เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางวาสนา โสมกูล
ปีที่ทำวิจัย 2562
บทคัดย่อ
การดำเนินการวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อทดลองรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ครูผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1
บุรีราษฎร์ดรุณวิทยา สังกัดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 43 คน
และกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนเทศบาล 1 บุรีราษฎร์ดรุณวิทยา สังกัดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 36 คน
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การทดสอบค่า t test Independent และ t test dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ความต้องการในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
การสัมภาษณ์สรุปได้ว่า กระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ มีความสำคัญต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ครูพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ให้นักเรียน โดยใช้วิธีสอนที่เน้นการตั้งคำถาม ทำแบบฝึกตามระดับความสามารถของนักเรียน ฝึกคิดวิเคราะห์ ให้นักเรียนค้นคว้าหาความรู้ตามที่ครูเป็นผู้เตรียมข้อมูลให้นักเรียนบูรณาการความรู้ผ่านการสร้างชิ้นงาน โดยครูช่วยเหลือสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างมีระบบ ซึ่งการช่วยเหลือจะค่อยๆ ลดลงในขณะที่เรียนค่อยๆ เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติงานด้วยตนเอง จนกระทั่งผู้เรียนสามารถรับผิดชอบหรือทำงานนั้นได้ด้วยตนเอง
2. รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบ
5 ส่วน คือ องค์ประกอบด้านหลักการ องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ องค์ประกอบด้านกระบวนการ (มี 4 ขั้นคือ ขั้นสร้างแรงจูงใจ ขั้นช่วยเหลือแนะนำ ขั้นสะท้อนความคิด ขั้นตรวจสอบความรู้) องค์ประกอบด้านระบบสังคม องค์ประกอบด้านระบบสนับสนุน ความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ และความเหมาะสมของรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนวเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
พบว่า 1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์มีค่า 83.92/83.26 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ สูงกว่า
ก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนด้วย
รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ตามแนว
เสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับมาก