ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) โดยใช้รูปแบบ KTH MODEL โรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม สพม.32 บุรีรัมย์

โรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม จัดทำ Best Practice (แนวปฏิบัติที่ดี) เรื่อง “การพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) โดยใช้รูปแบบ KTH MODEL” สอดคล้องกับนโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 3 และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบาย No Child Left Behind ไม่มีเด็กคนใด ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งทางโรงเรียนได้ดำเนินการ โดยให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนทุกคน ติดตามผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนทุกระดับชั้นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีนักเรียนจำนวนหนึ่งซึ่งมีผลการเรียนเป็น 0, ร และ มส. ดังนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม เล็งเห็นถึงความสำคัญ เรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 3 โดยนักเรียนทุกคนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ปลอด 0, ร และ มส. ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม ได้ทำ Memorandum of Understanding (MOU ) กับ คณะครูและบุคลาการทุกคนในโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคนให้ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างามและมีความสุข

1. ความสำคัญของ “แนวปฏิบัติที่ดี” ที่นำเสนอ

กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้มีการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 (2552-2561) เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้อย่าง มีคุณภาพ และได้ประกาศจุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนเพื่อขับเคลื่อนหลักสูตรการจัดการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลภายใต้ยุทธศาสตร์การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา โดยเน้นความสำคัญของทักษะที่จำเป็นพื้นฐานที่ส่งผลสำเร็จในการเรียนรู้ของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย และจะเป็นการกระตุ้นเร่งรัดส่งเสริมสนับสนุน การนำบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และ สร้างความเข้มแข็งในการกำกับติดตามและประเมินผล ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาคุณภาพ

ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสอดคล้องกับนโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 3 และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบาย No Child Left Behind ไม่มีเด็กคนใดถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งทางโรงเรียนได้ดำเนินการ โดยให้ครูและบุคลากรในโรงเรียนทุกคน ติดตามผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนทุกระดับชั้นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีนักเรียนจำนวนหนึ่งซึ่งมีผลการเรียนเป็น 0, ร และ มส. ดังนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 3 โดยให้นักเรียนทุกคนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ปลอด 0, ร และ มส. ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม ได้ดำเนินการทำ Memorandum of Understanding ( MOU ) กับคณะครูและบุคลาการทุกคนในโรงเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคนให้ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสง่างามและมีความสุข และใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม PAOR มีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ PDCA และบริหารงานโดยใช้รูปแบบ KTH MODEL

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินการ

2.1 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม

2.2 เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม

2.3 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคนให้ดีขึ้น

2.4 เพื่อประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน

3. กระบวนการดำเนินงาน

โรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม นำเสนอกระบวนการ/วิธีการจัดการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียน โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ตามความถนัดและความสนใจด้วยวิธีการที่หลากหลาย ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง มีการบริหารจัดการเรียนรู้เชิงบวก สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ รวมทั้งมีการประเมินผลการเรียนรู้ และนำข้อมูลที่ได้จากการประเมินผลมาใช้พัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารจัดการโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง รูปแบบ Active Learning ครูใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก โดยนำนโยบาย No Child Left Behind (NCLB) “ไม่มีเด็กคนใดถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง” มาสร้างความตระหนักแก่ครูผู้สอนโดยเน้นในเรื่องการมอบหมายงานและให้การบ้านนักเรียน การสอนซ่อมเสริม การบริหารจัดการชั้นเรียน และแหล่งเรียนรู้และการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา สอดคล้องกับความสนใจและความแตกต่างของนักเรียนโดยจัดกิจกรรมบูรณาการ 8 กลุ่มสาระ เช่น นวดแผนไทย กระเป๋าสานเส้นพลาสติก ไม้กวาด โครงงานศิราภรณ์ เกษตรอินทรีย์ โรงเรียนธนาคาร ภูมิปัญญาท้องถิ่น โครงงานการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (IS) สืบค้นข้อมูล ICT คีตะมวยไทย มวยไทยสมัครเล่น วงดนตรีสากล วงดุริยางค์ ฯลฯ ผู้บริหารและคณะครู มีการประชุมจัดทำแบบบันทึกข้อตกลง MOU ในการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนระหว่าง ผู้อานวยการโรงเรียนกับครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาผู้เรียนมีการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน คณะครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และระดมความคิด และจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ Professional Learning Community (PLC) และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับนโยบายของ สพม.32 และ สพฐ.

โรงเรียนมีเป้าหมายที่จะดำเนินการ ส่งเสริม สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนในการลดจำนวนนักเรียนที่มีผลการเรียน 0, ร และ มส ให้น้อยลง และเป็นโรงเรียนที่ปลอด 0, ร และ มส. คิดเป็น 100 % ด้วยความร่วมมือของคณะครูและบุคลากรในโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคมทุกท่าน ซึ่งมีครูที่ปรึกษาเป็นหลักสำคัญ ในการดำเนินการ ติดตาม กำกับดูแลให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียน มีกระบวนการทำงานเชิงระบบโดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม PAOR มีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ PDCA และบริหารงานโดยใช้รูปแบบ KTH MODEL เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) กระบวนการที่ใช้ในการดำเนินงาน ดังนี้

1. การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม PAOR ได้แก่ ขั้นที่ 1 การวางแผน (Planning) ขั้นที่ 2 การปฏิบัติการ

(Action) ขั้นที่3 การสังเกตการณ์ (Observing) และขั้นที่4 การสะท้อนผลการปฏิบัติ (Reflecting)

2. กระบวนการทำงานที่เป็นระบบ PDCA ได้แก่ ขั้นวางแผน (Plan) ขั้นดำเนินการตามแผน (Do)ขั้นการตรวจสอบ (Check) และขั้นการรายงานผลเพื่อปรับปรุงพัฒนา (Action)

3. บริหารงานโดยใช้รูปแบบ KTH MODEL ซึ่งนายกิติศักดิ์ ไทวะกิรติ ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม เน้นระบบการนิเทศภายใน โดยใช้เป็นหลักในการบริหารจัดการระบบคุณภาพ ดังนี้

K = Knowledge : การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานทุกกิจกรรมของผู้มีส่วนได้เสียกับโรงเรียน บูรณาการวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ กิจกรรม ทรัพยากร บุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คิดใหม่ทำใหม่ให้ทันสมัยและนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ใช้

T = Training : การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องและทันสมัย

H = Happy : ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข

การแก้ 0, ร และมส. มีการดำเนินงาน ดังนี้

1) ประชุมคระครูและบุคลากรทางการศึกษา รับนโยบายจากท่านผู้อำนวยการโรงเรียน เรื่องการยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ 3 ตามนโยบายของท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 และนโยบายของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

2) ท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ทำบันทึกข้อตกลง Memorandum of Understanding ( MOU ) กับครูและบุคลากรทุกคน

3) แจ้งให้ผู้ปกครองทราบและดำเนินการติดตาม ขณะนักเรียนอยู่ที่บ้าน

4) ครูที่ปรึกษาตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่มีผลการเรียน 0, ร และ มส.

5) แจ้งให้นักเรียนทราบและให้นักเรียนรีบดำเนินการติดต่อลงทะเบียนแก้ไขผลการเรียน 0, ร และ มส.

6) ครูที่ปรึกษาติดตามให้นักเรียนดำเนินการซ่อมเสริมในแต่ละรายวิชาจนแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา

7) ให้มีการดำเนินการแก้ไขผลการเรียน ภาคเรียนละ 2 ครั้ง ในช่วงเวลาพักเที่ยงและหลังเลิกเรียน

8) สรุปรายงานผลเสนอผู้บริหารทราบ

การติวเติมเต็มความรู้ให้ก่อนสอบ O-net ดังนี้

1) ประชุมคณะกรรมการ เพื่อวางแผนการติวเติมเต็มความรู้ก่อนสอบ O-net

2) ดำเนินการจัดติวเติมเต็มความรู้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 ในระหว่างธันวาคม 2561- มีนาคม 2562

3)ครูที่รับผิดชอบสอนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เข้าติวเติมเต็มความรู้ตามชั่วโมงที่ฝ่ายบริหารงานวิชาการจัดให้

4) ครูมีการเตรียมข้อสอบและเนื้อหาในการติวเอง และเชิญวิทยากรภายนอกมาให้ความรู้แก่นักเรียนมากยิ่งขึ้น

5) ทดสอบย่อยทุกครั้งที่จบเนื้อหาแต่ละตัวชี้วัด

6) นิเทศ กำกับ ติดตาม สร้างขวัญและกำลังใจให้ครูและนักเรียน ระหว่างการติวเติมเต็ม O-net

7) ประเมินความพึงพอใจ และสรุปรายงานผลเสนอผู้บริหารทราบ

๔. ผลการดำเนินงาน

จากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2561 เทียบกับปีการศึกษา 2560 พบว่าปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย 31.97 ปีการศึกษา 2561 มีคะแนนเฉลี่ย 34.66 คะแนนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย +2.69 ทำให้ผู้ปกครองและนักเรียน มีความพึงพอใจต่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET ) โดยการจัดติวเติมเต็มความรู้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561- เดือนมีนาคม 2562 ซึ่งครูที่รับผิดชอบสอนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เข้าติวเติมเต็มความรู้ตามชั่วโมงที่ทางฝ่ายบริหารงานวิชาการได้จัด ครูมีการเตรียมข้อสอบและเนื้อหาในการติวเอง และเชิญวิทยากรภายนอกมาให้ความรู้และติวเข้มเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับนักเรียนมากยิ่งขึ้น จากผลการดำเนินการได้รับความร่วมมือจากคณะครูเป็นอย่างดี

จากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2561 เทียบกับปีการศึกษา 2560 พบว่าปีการศึกษา 2561 มีคะแนนเฉลี่ย 27.09 ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย 27.37 คะแนนลดลงเฉลี่ย -2.28 เมื่อแยกคะแนนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีผลคะแนนสูงขึ้นจากปีการศึกษา 2560 ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพิ่มขึ้น +1.31 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพิ่มขึ้น +2.63 และกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพิ่มขึ้น +0.83

ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ดังกล่าวข้างต้น ทำให้ทราบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนโนนเจริญพิทยาคมเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน ยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคนดีขึ้น และมีผลการประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน อยู่ในระดับ ดีมาก

โพสต์โดย อัจ : [31 มี.ค. 2563 เวลา 09:51 น.]
อ่าน [3323] ไอพี : 223.205.234.162
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,943 ครั้ง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น

เปิดอ่าน 17,092 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?

เปิดอ่าน 26,152 ครั้ง
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?

เปิดอ่าน 16,136 ครั้ง
สะสมใบสั่งจราจรไว้ จะต่อภาษีรถได้อย่างไร?  หลังระบบเชื่อมโยงใบสั่งจราจร เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2562 นี้
สะสมใบสั่งจราจรไว้ จะต่อภาษีรถได้อย่างไร? หลังระบบเชื่อมโยงใบสั่งจราจร เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2562 นี้

เปิดอ่าน 16,827 ครั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557

เปิดอ่าน 9,145 ครั้ง
ระวังตกเป็นคนนิสัยเสียโดยไม่รู้ตัว
ระวังตกเป็นคนนิสัยเสียโดยไม่รู้ตัว

เปิดอ่าน 1,167 ครั้ง
ฝนเกิดขึ้นได้อย่างไร
ฝนเกิดขึ้นได้อย่างไร

เปิดอ่าน 26,319 ครั้ง
10 วิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุขตามหลักวิทยาศาสตร์
10 วิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุขตามหลักวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 9,070 ครั้ง
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ

เปิดอ่าน 34,225 ครั้ง
ความหมายยันต์
ความหมายยันต์

เปิดอ่าน 96,015 ครั้ง
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า

เปิดอ่าน 10,729 ครั้ง
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน

เปิดอ่าน 16,593 ครั้ง
คืนครูสู่ห้องเรียน
คืนครูสู่ห้องเรียน

เปิดอ่าน 15,366 ครั้ง
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.
ทางออกของวิกฤตการศึกษาไทยภายใต้การใช้อำนาจตาม ม.44 ของ คสช.

เปิดอ่าน 16,922 ครั้ง
พุทธคุณ 9
พุทธคุณ 9

เปิดอ่าน 55,381 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี
เปิดอ่าน 59,633 ครั้ง
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
เปิดอ่าน 17,636 ครั้ง
หลักเกณฑ์ใหม่ในการตั้งชื่อวัด
หลักเกณฑ์ใหม่ในการตั้งชื่อวัด
เปิดอ่าน 48,840 ครั้ง
กระบี่ กระบอง
กระบี่ กระบอง
เปิดอ่าน 145,859 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ