ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาทักษะการสังเกตของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกเตรียมความพร้อม

ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการสังเกตของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกเตรียมความพร้อม

ผู้ศึกษา นางปิ่นแก้ว พันธุ

ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเทศบาลนากลาง 1 สังกัดเทศบาลตำบลนากลางอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

ความพร้อมด้านการสังเกตสำหรับเด็ก เป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียนรู้ ดังนั้นผู้ศึกษา จึงทำการศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการสังเกตของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้แบบฝึกเตรียมความพร้อม ขึ้นโดยมีความมุ่งหมาย ดังนี้ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาล ปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น (3) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความพร้อมด้านการสังเกตของเด็กระหว่างก่อนจัดกิจกรรมและหลังจัดกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 กลุ่มเป้าหมายที่ศึกษา คือ เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลนากลาง 1 สังกัดเทศบาลตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แผนการจัดประสบการณ์กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 40 แผน แบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 8 ชุด แบบทดสอบวัดความพร้อมด้านการสังเกตชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดย ใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และการตรวจสอบสมมติฐานโดย t - test

ผลการศึกษาพบว่า

1. การพัฒนาแบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.98/ 89.62

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.811 แสดงว่า เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความก้าวหน้าทางการเรียนหลังเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกต สำหรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.10

3. การเปรียบเทียบคะแนนความพร้อมด้านการสังเกตของเด็กระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกเตรียมความพร้อมด้านการสังเกตของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 โดยคะแนนความพร้อมด้านการสังเกตหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

โพสต์โดย ครูแก้ว : [28 มี.ค. 2563 เวลา 12:54 น.]
อ่าน [3976] ไอพี : 223.24.184.49
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,629 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557

เปิดอ่าน 27,340 ครั้ง
E-mail Scams คืออะไร?
E-mail Scams คืออะไร?

เปิดอ่าน 32,282 ครั้ง
มาตรฐานห้องสมุดและตัวบ่งชี้ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน สังกัด สพฐ.
มาตรฐานห้องสมุดและตัวบ่งชี้ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน สังกัด สพฐ.

เปิดอ่าน 11,305 ครั้ง
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ
ผลสำรวจพบคนใช้รถ50%เลือกซื้อรถในใจ

เปิดอ่าน 14,306 ครั้ง
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"

เปิดอ่าน 23,178 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานครูแห่งชาติ
เกณฑ์มาตรฐานครูแห่งชาติ

เปิดอ่าน 20,728 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 31,500 ครั้ง
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ

เปิดอ่าน 9,196 ครั้ง
"ผลไม้ไทย" อาหารเพื่อสุขภาพและเภสัชโภชนภัณฑ์
"ผลไม้ไทย" อาหารเพื่อสุขภาพและเภสัชโภชนภัณฑ์

เปิดอ่าน 8,839 ครั้ง
ปลุกพลังเยียวยาตัวเอง ด้วยเคล็ดลับจากแดนอาทิตย์อุทัย
ปลุกพลังเยียวยาตัวเอง ด้วยเคล็ดลับจากแดนอาทิตย์อุทัย

เปิดอ่าน 30,156 ครั้ง
ตำนานนางสงกรานต์
ตำนานนางสงกรานต์

เปิดอ่าน 25,336 ครั้ง
รวมประกาศเกี่ยวกับการศึกษา
รวมประกาศเกี่ยวกับการศึกษา

เปิดอ่าน 11,161 ครั้ง
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน

เปิดอ่าน 14,997 ครั้ง
หักลดหย่อนบุตร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
หักลดหย่อนบุตร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 22,698 ครั้ง
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก

เปิดอ่าน 9,605 ครั้ง
คุณหมอขอบอก: วิธีคลายเครียดจากน้ำท่วม
คุณหมอขอบอก: วิธีคลายเครียดจากน้ำท่วม
เปิดอ่าน 11,237 ครั้ง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
เปิดอ่าน 20,018 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
เปิดอ่าน 31,966 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
เปิดอ่าน 338 ครั้ง
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science  ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ